รีเซต

LGBT : จันทบุรีนำร่องจังหวัดแรก ออกประกาศขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมทางเพศ

LGBT : จันทบุรีนำร่องจังหวัดแรก ออกประกาศขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมทางเพศ
บีบีซี ไทย
9 มิถุนายน 2563 ( 13:59 )
308
LGBT : จันทบุรีนำร่องจังหวัดแรก ออกประกาศขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมทางเพศ

Getty Images

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลงนามในประกาศข้อปฏิบัติส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศให้ส่วนราชการภายในจังหวัดปฏิบัติ บุคลากรสามารถแต่งกายตามเพศสภาพ การรับสมัครงานต้องไม่กำหนดคุณสมบัติที่จำกัดเพศกำเนิดหรือเพศสภาพ

 

ในข้อปฏิบัติ 6 ข้อที่ลงนามโดยนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ยังระบุถึงการส่งเสริมความเสมอภาคในการสรรหาคณะกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงาน โดยคัดเลือกทั้งจากเพศชาย หญิง หรือ "ผู้ที่แสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกำเนิด" เข้าร่วมเป็นกรรมการในทุกระดับ การใช้ถ้อยคำและการปฏิบัติต่อผู้มีอัต

 

"เมื่อเราอยากให้ทุกคนมีความคิดเรื่องความเท่าเทียม ในฐานะที่เราเป็นหน่วยงานของรัฐ เราคิดว่าก็น่าจะเริ่มต้นที่รัฐก่อน" นายพัฒนคมน์ ภู่ประเสริฐ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จันทบุรี บอกกับบีบีซีไทย

 

ประกาศฉบับนี้มีชื่อว่า ข้อปฏิบัติในการส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศตาม พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558

นายพัฒนคมน์ กล่าวถึงที่มาของประกาศฉบับนี้ว่าเป็นการขยายผลจากการประกาศเจตนารมณ์ว่าด้วย "การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ " ซึ่งผลักดันโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. ซึ่งประกาศเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา 24 องค์กร ร่วมประกาศเจตนารมณ์ หลังจากนั้น พม. ได้ขยายผลต่อไปยังส่วนราชการทั่วประเทศ โดย จ.จันทบุรี เป็นจังหวัดแรกที่ออกประกาศข้อปฏิบัตินี้แก่ส่วนราชการภายในจังหวัด

 

"เราไม่ควรจะปิดกั้นเรื่องนี้ ในฐานะส่วนราชการ ถ้าบุคคลนั้นมีความสามารถ เราไม่ควรเอาเรื่องของเพศสภาพ เป็นข้ออ้างหรือข้อจำกัด" พม.จันทบุรี กล่าว

 

รายละเอียดของข้อปฏิบัติ 6 ข้อ

  1. การแต่งกาย ให้บุคลากร สามารถแต่งกายตามอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ หรือเพศภาวะของบุคคลตามข้อบังคับของหน่วยงาน
  2. การจัดพื้นที่ที่เหมาะสม จัดพื้นที่ที่เหมาะสมกับจำนวนของบุคคล ข้อจำกัดของบุคคล และอัตลักษณ์ทางเพศสภาพหรือเพศภาวะของบุคคล
  3. การประกาศรับสมัครงานและการกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครงาน มีการระบุคุณสมบัติด้านวุฒิการศึกษา หรือความสามารถที่สอดคล้องกับลักษณะงาน ไม่ระบุโดยเพศกำเนิด หรือเพศสภาพ/ เพศภาวะ
  4. การใช้ถ้อย ภาษา และกิริยาท่าทางและเอกสารต่าง ๆ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรเกี่ยวกับคำศัพท์ที่เหมาะสมในการใช้เรียกอัตลักษณ์ทางเพศสภาพหรือเพศภาวะของบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดการตีตรา เสียดสี หรือลดทอนคุณค่าของบุคคลทุกเพศ รวมถึงเป็นการแสดงถึงอคติทางเพศที่ไม่เคารพในสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
  5. การสรรหาคณะกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในหน่วยงาน ส่งเสริมให้มีการสรรหาบุคคลทั้งเพศชาย เพศหญิง หรือผู้ที่แสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกำเนิดเข้าร่วมเป็นกรรมการในทุกระดับ เพื่อพัฒนาสังคมไทยไปสู่สังคมเสมอภาคอย่างแท้จริง
  6. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ และจัดทำแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดในการทำงาน

 

ความก้าวหน้าของราชการ ?

อ.ดร. ชีรา ทองกระจาย อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศภาวะและความหลากหลายทางเพศ กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ประกาศข้อปฏิบัติจังหวัดที่ออกมานี้ เป็นหมุดหมายที่สำคัญในการดำเนินการตาม พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเป็นความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรม มีลายลักษณ์อักษร

 

"ในสังคมไทยมักพูดกันว่ามีการยอมรับ LGBT (ผู้มีความหลากหลายทางเพศ) ในสังคมแล้ว แต่เราเห็นกฎระเบียบ กฎหมายที่ยอมรับและผนวกความคุ้มครอง LGBT น้อยมาก เอกสารของจันทบุรีเป็นเหมือนเสาเข็มอันหนึ่งที่ปูทางในการดำเนินการขับเคลื่อนประเด็นนี้ต่อไป อีกทั้งเป็นหน่วยงานในท้องถิ่นด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อคนในพื้นที่จริง ๆ"

 

อ.ดร. ชีรา กล่าวถึงความสำคัญของการได้เห็นข้อปฏิบัติในหน่วยราชการเช่นนี้ว่า เมื่อเกิดการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ ก็สามารถอ้างอิงประกาศนี้ได้เพราะเป็นหลักฐานที่ได้รับการรับรองในทางราชการแล้ว "เป็นเอกสารที่สามารถเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ของ LGBT อีกมากมายที่ยังถูกกระทำละเมิดสิทธิ"

 

อาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งกำลังทำวิจัยเรื่องความหลากหลายทางเพศในหน่วยงานรัฐ เห็นว่าก้าวนี้ยังเป็นการปูทางให้ผู้ที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง กล้าที่จะก้าวออกมา เป็นตัวของตัวเอง อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวถูกเล่นงานจากระบบราชการ กฎระเบียบเดิม ๆ องค์รัฐควรเป็นตัวอย่างในการ come out ต่อสังคม และปรับเปลี่ยนค่านิยมในองค์กรใหม่

 

"สิ่งที่สังคมควรเรียนรู้จากกรณีนี้คือ การ come out และเรื่อง visibility (การมองเห็นตัวตน) เราจะให้ LGBT เปิดเผยตัวตนได้อย่างภาคภูมิใจ องค์กรจำเป็นจะต้อง come out เหมือนกัน ในฐานะองค์กรที่เปิดพื้นที่ เพื่อความหลากหลายทางเพศ กล้าออกมาประกาศตัวว่าเราสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ เราไม่เลือกปฏิบัติ เราเห็นคุณค่าในตัวทุกๆ คน ทุกๆ เพศ" อ.ดร. ชีรา กล่าว

 

"ไม่อยากให้ประกาศนี้เป็นแค่กระดาษที่ทำแล้วผ่านไป"

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง