ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ สั่งเร่งสำรวจความเสียหายคลอง หลังถูกกระแสน้ำพายุฝนพัดพังเสียหาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายคลองถูกกระแสน้ำพัดพัง พร้อมกำชับพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนซินลากู ซึ่งส่งผลให้ทุกพื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ติดกับเขตป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง ซึ่งชาวบ้านระบุว่า จากฝนตกหนักและติดต่อกัน ประกอบกับพื้นที่ป่าถูกบุกรุกจึงส่งผลให้เกิดปัญหากระแสน้ำป่าไหลหลากขึ้นทุกปี และล่าสุดได้เกิดกระแสน้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะคู คลองริมถนน ได้รับความเสียหาย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้นายธนพร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ เร่งประสานงานกับทางอำเภอยางตลาดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นเข้าตรวจสอบความเสียหายและเร่งทำการช่วยเหลือซ่อมแซม พร้อมกำชับให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังปัญหาฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในช่วงนี้
โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า โครงสร้างของถนนไม่ได้รับความเสียหายยานพาหนะยังคงสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ ซึ่งในส่วนของคูคลอง ทางระบายน้ำที่ได้รับความเสียหาย ได้เกิดจากการอิทธิพลของพายุฝนในช่วงต้นของฤดูฝน 2-3 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับเกิดฝนตกในช่วงนี้จึงเกิดความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลบัวบาน เพื่อเข้าซ่อมแซมคูคลอง ทางระบายน้ำ โดยได้ประสานไปยังผู้รับเหมาเร่งเข้าดำเนินการแก้ไข เพราะยังอยู่ในช่วงประกันสัญญา และจะสามารถเข้าดำเนินการแก้ไขในเร็วๆนี้
ส่วนกรณีที่ปัญหาที่ชาวบ้านระบุว่าน้ำป่าไหลหลากจากป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง เนื่องจากพื้นที่ถูกบุกนั้น เท่าที่ตรวจสอบพบว่าป่าดงระแนงฯตั้งอยู่ในพื้นที่สูง ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม ประกอบกับฝนตกในปริมาณที่มากและติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้มีปริมาณน้ำที่มาก ได้ไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ และได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น ทางผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะได้ร่วมประชุม วางแผนการแก้ปัญหาในระยะยาว ในวันที่ 4 สิงหาคม 63 ที่เทศบาลตำบลบัวบาน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มีความยั่งยืนต่อไป
อย่างไรก็ตามนายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ ยังได้กำชับไปยังพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 18 อำเภอ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่อยู่ติดเขา ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยให้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไว้คอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงหากเกิดเหตุขึ้น