รีเซต

หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก

หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก
ข่าวสด
6 มกราคม 2564 ( 05:07 )
2.4K

หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า - โคเรียนเฮอรัลด์ และ จุงอังเดลี รายงานประเด็นร้อนของสังคมเกาหลี จากคดีเด็กหญิงจุงอิน อายุ 16 เดือน ถูกพ่อแม่ที่รับมาเลี้ยงทารุณกรรมทางร่างกายจนถึงแก่ความตาย ว่าก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองระดับประเทศ เมื่อประชาชนเรียกร้องให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้คุ้มครองเด็ก เพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิด รวมถึงปรับปรุงระบบการสอบสวนคดีใหม่

 

 

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. จำนวนรายชื่อที่ระดมให้ชาวเกาหลีใต้ลงนามทางเว็บไซต์ เรียกร้องให้พ่อแม่เด็กถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม มีมากกว่า 230,000 รายชื่อแล้ว ขณะที่ศาลนัดไต่สวนพ่อแม่เลี้ยงของเด็ก นัดแรกวันที่ 13 ม.ค.นี้

กรณีดังกล่าวสะเทือนใจผู้คนในเกาหลีใต้มาก บรรดาคนดังรวมถึงวงการบันเทิงต่างเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้เด็กน้อยที่ตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากคดีนี้เผยถึงจุดบกพร่องของตำรวจที่ดูดาย ทั้งที่ได้รับการร้องเรียนหลายรอบแล้ว

 

SEOUL Jan. 4 (Yonhap) -- ดอกไม้ จดหมาย และของขวัญที่ผู้คนมาวางที่สุสานฝังเด็กหญิงจองอิน ทางตะวันออกของกรุงโซล ด้วยความสะเทือนใจ (Yonhap)

 

เด็กหญิงจุงอินวัยเพียง 1 ขวบ 4 เดือน ได้รับการอุปถัมภ์จากสามีภรรยาในกรุงโซลที่มีลูกของตนเองอยู่แล้ว อายุ 4 ขวบ เด็กมาอยุ่กับพ่อแม่คู่นี้ได้เพียง 271 วัน ก็เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม 2563 หลังจากถูกส่งมาโรงพยาบาลฝั่งตะวันตกของกรุงโซลในสภาพบอบช้ำไปทั้งตัว มีรอยช้ำ กระดูกแตก และอวัยวะภายในเสียหาย

ผลการชันสูตรที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ระบุว่า เด็กตายเพราะเลือดตกใน สาเหตุมาจากถูกใช้กำลังรุนแรง มีบาดแผลร้ายแรงที่ดับอ่อน และเยื่อยึดลำไส้เล็กฉีกขาด ขณะนี้พ่อแม่เด็กถูกดำเนินคดีหลายข้อหา รวมถึงทารุณกรรมเด็กทำร้ายและเพิกเฉยไม่ดูแล เป็นสาเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย

 

จีมิน สมาชิกวงบีทีเอส ร่วมโพสต์ไว้อาลัยหนูน้อย "จุงอิน ฉันขอโทษนะ"

ด้านตำรวจตกเป็นจำเลยสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะทั้งครูอนุบาล และกุมารแพทย์ ต่างส่งเรื่องร้องเรียนไปอย่างน้อย 3 ครั้ง แต่ตำรวจกลับไม่ทำอะไร หลังจากพ่อแม่เด็กอ้างว่ารอยช้ำที่เกิดขึ้นมาจากนวดให้เด็กแรงเกินไป

กรณีดังกล่าว ประธานาธิบดี มุน แจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบขั้นตอนการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมให้เข้มงวดขึ้น ยึดหลักสิทธิเด็กเป็นสำคัญ

 

แม่เด็กต้องขึ้นให้การที่ศาล วันที่ 13 ม.ค. นี้

 

ส่วนนายชุง ซเย-คยุน นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจต่อชะตากรรมของเด็กหญิงจุงอินและเด็กคนอื่นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมรับปากว่า รัฐบาลจะผลักดันบทลงโทษต่อผู้ทำร้ายเด็กให้หนักขึ้น และรัฐบาลต้องเข้าไปมีบทบาทสำคัญในกระบวนการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมมากขึ้น

ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรคการเมืองทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างประกาศทบทวนกฎหมายคุ้มครองเด็กให้ดีกว่าเดิม มีบทลงโทษผู้กระทำผิดที่หนักกว่าเดิม

 

หนูน้อยที่น่ารักกลับพบชะตาที่น่าสะเทือนใจ

 

จากการเก็บสถิติของรัฐบาล มีเด็กถูกทารุณจนเสียชีวิตช่วงปี 2557-2561 จำนวน 132 ราย มีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงสวัสดิการสังคม 24,604 คดี เมื่อปี 2561 สูงกว่าเมื่อสิบปีก่อนถึง 4 เท่า

อี แบกึน ประธานสมาคมคุ้มครองเด็กจากการถูกทารุณและทอดทิ้ง กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายเพิ่งเริ่มต้น จำเป็นต้องมีคนมากกว่านี้ที่เคยเป็นหูเป็นตาให้คดีทำร้ายเด็ก รวมถึงงบประมาณก็ต้องได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้

“ที่สำคัญประชาชนต้องตระหนักว่า การใช้ความรุนแรงต่อเด็กเป็นเรื่องรับไม่ได้ และต้องเต็มใจที่จะแจ้งกรณีต้องสงสัยทุกเวลา การที่พ่อแม่เคยใช้ความรุนแรงกับเด็กและไม่คิดว่าเป็นอะไร ทำให้คนนิ่งเแยคิดว่าธุระไม่ใช่ ควรจะตัองเปลี่ยนแปลงได้แล้ว” ประธานสมาคมคุ้มครองเด็กกล่าว

/////////

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เขาออกมาแล้ว! เกาหลีใต้ปล่อยนักโทษคดีข่มขืนสะเทือนขวัญ เดือด!ฮือปาไข่-ตะโกนด่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง