บุกค้นเครือข่าย “บอย ชิตดุษดี” แก๊งยารายใหญ่ ยึดทรัพย์ 30 ล้าน!
บุกค้นเครือข่าย “บอย ชิตดุษดี” แก๊งยารายใหญ่ ยึดทรัพย์ 30 ล้าน!
วันที่ 15 ก.ค. ที่ ศูนย์ปฎิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดชุมพร ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร พล.ต.พรชัย อินทนู ผบ.มทบ.44 นายพีระ กาญจนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ร่วมแถลงข่าวตรวจค้น พร้อมยึดทรัพย์ เครือข่ายยาเสพติดของ นายเอกสิทธิ์ หรือบอย ชิตดุษดี ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยทรัพย์สินที่ยึดได้ กว่า 50 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท
พล.ต.ต.วิมล เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดชุมพร เพื่อตรวจค้นเป้าหมายซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดของ นายเอกสิทธิ์ หรือบอย ชิตดุษดี ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 1 ก.ค.63
โดยมีผลการปฏิบัติดังนี้ การตรวจค้นบ้านเลขที่ 99/9 หมู่ที่ 1 ตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร โดยมีเป้าหมายบุคคลตามหมายจับคือ นายเอกสิทธิ์ หรือบอย ชิตดุษดี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 6 ตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
และ น.ส.ชานันดา หรืออีฟ มิ่งสัมพรางค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/2 หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งคา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
สำหรับผลการตรวจค้นพบยาบ้า ชนิดเม็ดสีส้ม 88 เม็ด ยาไอซ์ชนิดเกล็ดใส น้ำหนัก 7.60 กรัม ยาอี น้ำหนัก 2.39 กรัม ยาเคตามีน น้ำหนัก 1.75 กรัม อาวุธปืน 2 กระบอก กระสุนปืน โพยหวย 2 ชุด โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ
โดยตรวจยึดทรัพย์สินและเอกสารประกอบทรัพย์สินเช่นบ้านพร้อมที่ที่ดิน รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน เรือท้องแบน รถแบ็คโฮ ทองรูปพรรณ สมุดบัญชีธนาคาร เงินสด 1,040,000 บาท กระเป๋า,รองเท้าแบรนด์เนม รวมจำนวน 51 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดของนายเอกสิทธิ์ คือ นายอัษรินทร์ สบายวงศ์ ข้อหาครอบครองยาบ้า ,ไอซ์เพื่อจำหน่ายและครอบครองอาวุธปืนฯ นายสิทธิศักดิ์ สุชีพ ข้อหาครอบครองยาบ้า,ไอซ์ฯ ,นางสาวบุณยวีย์ สังข์สม ข้อหาครอบครองยาบ้า,ยาอีและไอซ์ เพื่อจำหน่ายฯ และนายทวีศักดิ์ สุวรรณพรม ข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนฯ ซึ่งอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่ง
โดยได้สืบสวนตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก คือ รถยนต์เอนกประสงค์ยี่ห้อเชฟโรเล็ด จำนวน1 คัน และเรือเจ็ตสกี จำนวน 1 ลำ รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท หลังจากนั้น ได้ตรวจค้นบ้านเลขที่ 142/1 หมู่ที่ 2 ตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
โดยมีเป้าหมาย นายถาวร หรือเบนซ์ ชิตดุษดี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของนายเอกสิทธิ์ ตรวจค้นพบยาบ้าชนิดเม็ดสีส้ม น้ำหนักประมาณ 0.55 กรัม และของกลางอื่นๆ
ตรวจยึดทรัพย์สินและเอกสารประกอบทรัพย์สินซึ่งเป็นของนายเอกสิทธิ์ฯ เช่น รถยนต์ จำนวน 3 คัน สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 6 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ต่อเนื่องได้ ตรวจค้นบ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 2 ตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยมีเป้าหมาย นายจุรี ชิตดุษดี อายุ 70 ปี ตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นจำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืน และของกลางอื่นๆ โดยได้ตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคารของนายเอกสิทธิ์ฯ จำนวน 1 เล่ม เพื่อไว้ตรวจสอบ
โดยพฤติการณ์ในการจับกุม จากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จังหวัดชุมพร จำนวนหลายราย ซึ่งขึ้นไปรวมกลุ่มกันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นจะว่าจ้างนักบินขึ้นไปลำเลียง ยาเสพติดลงมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยได้ทำการสืบสวนจับกุมเครือข่ายดังกล่าวหลายราย
เช่น วันที่ 8 มกราคม 2563 จับกุมนายดนุพล หรือซัน ฉิมมณี อายุ 30 ปี พร้อมพวกรวม 3 คน ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จังหวัดชุมพร พร้อมยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด ในพื้นที่ สภ.เมืองชุมพร โดยตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถเก๋ง เบนซ์ ทะเบียน 8 กร 8537 กทม. เพื่อตรวจสอบ
วันที่ 27 มกราคม 2563 จับกุมนางสาวฐานมาศ หรือแพรว ปัญญางาม อายุ 25 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ลำเลียงยาเสพติดจากรุงเทพฯ ลงมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.ชุมพร พร้อมยาบ้าจำนวนประมาณ 40,000 เม็ด และของกลางอื่น ในพื้นที่ สภ.เมืองชุมพร
วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 จับกุมนายสาธร ชุมวรฐายี อายุ 35 ปี พร้อมยาบ้า 805 เม็ดไอซ์น้ำหนักประมาณ 0.9 กรัม และของกลางอื่น ผู้ค้ายาเสพติดรายกลาง ในพื้นที่ สภ.สลุย
และต่อมาวันที่ 18 มิถุนายน 2563 จับกุมนายเอกชัย หรือฟิล์ม นิ่มน้อย อายุ 31 ปี ผู้จำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญตามหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.58/2563 ลงวันที่ 7 เมษายน 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ในพื้นที่ สภ.คันนายาว กรุงเทพฯ
จากการสืบสวนขยายผลการจับกุมดังกล่าว มีพยานหลักฐานเชื่อว่านายเอกสิทธิ์ หรือบอย ชิตดุษดี และน.ส.ชานันดาหรืออีฟ มิ่งสัมพรางค์ สองสามีภรรยามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในครั้งนี้
จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พงส.สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินคดีกับบุคคล ทั้งสองในความผิดฐานฟอกเงิน หรือสมคบฟอกเงินซึ่งศาลจังหวัดชุมพรได้อนุมัติหมายจับ จนกระทั่งสามารถสืบสวนจับกุมบุคคลทั้งสองตามความผิดดังกล่าว ได้เป็นผลสำเร็จ