รีเซต

สุรินทร์ หนักสุดในรอบ 40 ปี น้ำชีเอ่อล้น เร่งแจ้งเตือนชาวบ้านที่ลุ่ม อพยพออกนอกพื้นที่

สุรินทร์ หนักสุดในรอบ 40 ปี น้ำชีเอ่อล้น เร่งแจ้งเตือนชาวบ้านที่ลุ่ม อพยพออกนอกพื้นที่
มติชน
6 ตุลาคม 2565 ( 21:20 )
81
สุรินทร์ หนักสุดในรอบ 40 ปี น้ำชีเอ่อล้น เร่งแจ้งเตือนชาวบ้านที่ลุ่ม อพยพออกนอกพื้นที่

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม  65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ หลังที่มีฝนตกลงมาอย่างเนื่อง ทำให้มีมวลน้ำสะสมไหลลงสู่ลำน้ำชีเป็นจำนวนมาก ก่อนจะไหลลงสู้แม่น้ำมูลต่อไป โดยมวลน้ำดังกล่าวได้เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านที่ติดลำน้ำชี โดยเฉพาะตำบลเมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ มีบ้านเรือนประชาชนรวมทั้งพืชผลทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 3 หมู่บ้าน 300 กว่าหลังคาเรือน ประกอบด้วย บ้านหนองซำ ม.6 จำนวน 10 หลังคาเรือน บ้านหลุมดิน ม.9 จำนวน 69 หลังคาเรือน และที่หนักสุดคือบ้านทุ่งนาค ม.7 ได้รับความเดือดร้อน ทั้งหมู่บ้าน 261 หลังคาเรือน บ้านเรือนที่อยู่ที่ลุ่มต่ำระดับสูง 1.5 ถึง 2 เมตรกว่า ทางอบต.เมืองลีง ต้องแจ้งชาวบ้านให้อพยพ ขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์การเกษตรไว้บนที่สูงและนำสัตว์เลี้ยงออกจากหมู่บ้านเนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ผู้ป่วยหนักเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ตำบลเมืองลีง ต้องนำเรือเข้าไปรับนำออกมาจากบ้านมาขึ้นรถกันอย่างทุลักทุเล ก่อนนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลจอมพระต่อไป

ด้านหน่วยงานรัฐและเอกชนรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าว ต่างก็ได้นำอาหาร น้ำดื่มและของใช้ที่จำเป็น ลงพื้นที่มามอบให้การช่วยเหลือ โดยมีรถทหารพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากมณทลทหารบกที่ 25 มาอำนวยความสะดวกขนสิ่งของต่างๆจากผู้ที่บริจาคช่วยเหลือ เข้ามาส่งยังเต็นท์อำนวยการที่อยู่ภายในหมู่บ้านก่อนแจ้งให้ชาวบ้านออกมารับ ซึ่งชาวบ้านต้องใช้เรือพายออกมารับสิ่ง ขณะที่บางบ้านออกมาไม่ได้ นายก อบต.เมืองลีงพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านได้ใช้เรือท้องแบนนำอาหารและสิ่งของเข้าไปส่งให้ที่หน้าบ้าน

ขณะที่ถนนหมายเลข 2378 ช่วงสะพานบุรีรินทร์ เขตรอยต่อ ตำบลเมืองลีง อ.จอมพระ และ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ น้ำท่วมสูงเกินขอบราวสะพาน โดยมีภาพจากรถที่ขับมาจากอำเภอสตึกถ่ายภาพไว้เมื่อวานนี้(5 ต.ค. 65)ขณะวิ่งผ่านสะพานดังกล่าว และน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้ากรมทางได้นำป้ายห้ามผ่านมากั้นถนนแล้ว พร้อมให้เจ้าหน้าที่ค่อยเฝ้าไม่ให้รถขับผ่านโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยและให้หลีกเลี่ยงเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นก่อนในช่วงนี้

น.ส.สมฤทัย สัญลักษณ์ ผู้ที่นำสิ่งของมาบริจาค บอกว่า หลังทราบข่าวตนจึงได้เดินทางมาจากอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเพื่อนอีก 6 คน เพื่อนำแพมเพิร์ส ผ้าอนามัย ไข่ไก่ มาม่า และปลากระป๋อง มาช่วยเหลือ ส่วนยาแก้คันและน้ำกัดเท้าจะตามมาวันหลัง เพราะช่วงนี้ยาขาดตลาด

ด้านนายประเสริฐ สุขจิต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองลีง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำตอนนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ที่ท่วมอยู่ตอนนี้มี 3 หมู่บ้าน ที่หนักหนักสุดคือบ้านทุ่งนาคและบ้านหลุมดิน รวมบ้านเรือนทั้งหมด 340 ครัวเรือน ถนนบ้านทุ่งนาคกับบ้านหลุมดินตอนนี้ถูกตัดขาดรถเล็กเข้าไม่ได้แล้ว ตอนนี้ได้ประสานขอรถจาก มทบ.25 พร้อมด้วยทหารเข้ามาช่วยขนย้ายคนและสิ่งของออกจากพื้นที่น้ำท่วม ตอนนี้ทั้งบ้านหลุมและทุ่งนาคเราได้อพยพสัตว์เลี้ยงไปอยู่ยังจุดพักสัตว์ชั่วคราวบนพื้นที่สูงแล้ว ส่วนประชาชนหากคนไหนไม่มีที่พักที่นอน เราก็ได้เตรียมที่พักชั่วคราวไว้ให้เพื่อที่จะอพยพคนขึ้นไป ที่หนักสุดของหมู่บ้านทุ่งนาคตอนนี้ ระดับน้ำอยู่ที่ 2 เมตรกว่า ส่วนถนนช่วงสะพานบุรีรินทร์ที่จะข้ามไปอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ ตอนนี้ถูกตัดขาดขาดแล้ว ตรงสะพานตอนนี้น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรแล้ว ทางกรมทางหลวงก็ได้นำป้ายมากั้นแล้ว ส่วนท่านใดที่ต้องการบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ อบต.เมืองลีง เบอร์โทร 044-576105 หรือติดต่อได้ที่ตน เบอร์ 064-1628982 นายก อบต.เมืองลีง ซึ่งเราได้เปิดศูนย์รับบริจาคของช่วยเหลือพี่ น้อง ประชาชน อยู่ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองลีง ตอนนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และตอนนี้ทางชลประทานก็ได้มีการทำหลักวัดระดับน้ำมาปักไว้ตามจุดต่างๆโดยให้เจ้าที่ อบต.เฝ้าตรวจระดับน้ำพร้อมรายงานทุกวัน ก็พบว่าเพิ่มขึ้นตลอด และหากยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็จำเป็นต้องอพยพชาวบ้านออกทั้งหมู่บ้าน ตอนนี้มีหลายหลังที่น้ำขึ้นถึงที่นอนแล้ว เมื่อปี 56 น้ำยังขึ้นถึงแค่ชานหมู่บ้านทิศตะวันตกแค่นั้นเอง จากการถามผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า เคยเห็นท่วมแบบนี้เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้วครั้งหนึ่ง ถือว่าครั้งนี้ท่วมหนักในรอบ 40 ปีก็ว่าได้

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังพบว่า มีพื้นที่ในหลายอำเภอ ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะอำเภอที่มีพื้นที่ติดกับลำน้ำชี และพื้นที่ติดกับแม่น้ำมูล เช่นอำเภอขุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และอำเภอรัตนบุรี ซึ่งมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือนชาวบ้าน เป็นบริเวณกว้าง รวมไปถึงพื้นที่อำเภอศีขรภูมิและอำเภอสำโรงทาบ โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้วขณะนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง