MOSHI ควบพันธมิตรเกาหลี เจาะตลาดสินค้าเคป๊อบ

นางสาวบุณยวีร์ บุญสงเคราะห์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจและปฏิบัติการ บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้สานต่อความร่วมมือกับ (Collaboration Project) กับ SM ENTERTAINMENT และ SM True อีกครั้ง โดยนำลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ของ aespa (เอสป้า) เกิร์ลกรุ๊ประดับโลกภายใต้สังกัด SM ENTERTAINMENT ซึ่งโดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘รสชาติเหล็ก’ จากการนำเสนอผลงานเพลงที่เต็มไปด้วยความทรงพลัง เข้มข้น และมีสไตล์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ความฮิตในระดับโลกมากมาย อาทิ Black Mamba, Next Level, Savage, Drama, Supernova และ Armageddon ที่การันตีความสำเร็จอย่างล้นหลาม สมกับเป็นเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop ระดับแนวหน้าของเจน 4 จากความสำเร็จและความโดดเด่นดังกล่าว 

บริษัทฯ จึงได้ร่วมพัฒนา Collaboration Project เพื่อออกแบบลายชุดคาแรกเตอร์การ์ตูนตามคอนเซ็ปต์ของมินิอัลบั้มล่าสุด 'Whiplash' (วิพแลช) ที่มีคีย์เวิร์ดสำคัญคือ 'ฉัน' ที่มีความเป็นตัวเองจะเป็น 'Game Changer (ผู้เปลี่ยนเกม)' ที่เปิดโลกใหม่" โดยมีเป้าหมายในการนำเสนอสิ่งที่ยังคงความเป็น aespa อย่างแท้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นถึง aespa ในมุมมองที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่ง Collection ได้ออกแบบสินค้าให้มีความ Unique และโดดเด่นจากชุดในอัลบั้ม 'Whiplash' เพื่อตอบโจทย์ความชื่นชอบของเหล่า MY (ชื่อแฟนคลับ) ทั่วโลก

สำหรับ Collection นี้จะมีสินค้ากว่า 14 รายการ ครอบคลุมหลายหมวดหมู่  วางเป้าหมายขยายฐานลูกค้าทั้งวัยเรียน วัยทำงาน และกลุ่มแฟนคลับ MY (มาย) ชาวไทยและต่างประเทศ เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 31 พฤษภาคนนี้เป็นต้นไป ที่ร้าน Moshi Moshi จำนวน 9 สาขา ในเขตกรุงเทพปริมณฑล 

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมั่นใจในเป้ารายได้ปี 2568 จะเติบโต 15-20% ตามแผน ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการผลักดันสินค้าใหม่ การนำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการปรับปรุงการจัดแสดงสินค้า และการเติบโตของกลุ่มสินค้าของใช้ในบ้าน ของเล่น และ สินค้าแฟชั่น ขณะเดียวกัน ยังมุ่งดำเนินกลยุทธ์พัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความประทับใจและเพิ่มประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ MOSHI สามารถรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

เเละสำหรับปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้น 40 สาขา โดยในไตรมาส 1 ได้เปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา และในไตรมาส 2 ได้เปิดเพิ่มไปแล้ว 5 สาขา ประกอบด้วยสาขา สาขา Big C จ.เพชรบุรี, สาขา Big C หัวหมาก, สาขา Market Village คลอง 4, สาขา Lotus คลอง 7 และ สาขา Standalone ในรูปแบบ Big Size อ.วังสะพุง จ.เลย ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 175 สาขา ครอบคลุม 63 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 168 สาขา โดยเป็น รูปแบบ Standalone จำนวน 7 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา