รีเซต

อุทาหรณ์แอปฯหาคู่! ถูกหนุ่มจีนใช้โปรไฟล์หน้าหล่อ หลอกลงทุนสูญกว่า 200 ล้าน

อุทาหรณ์แอปฯหาคู่! ถูกหนุ่มจีนใช้โปรไฟล์หน้าหล่อ หลอกลงทุนสูญกว่า 200 ล้าน
TNN ช่อง16
18 พฤศจิกายน 2563 ( 14:36 )
1.1K

วันนี้ ( 18 พ.ย. 63 ) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสาร โดยระบุว่า ปัจจุบันการใช้งานแอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์ต่างๆ จะมีการแนะนำเพื่อนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง มีโปรไฟล์เป็นชายหรือหญิงชาวจีนรูปร่างหน้าตาดี


โดยระยะแรกเพื่อนชาวจีนดังกล่าวจะพูดคุยในลักษณะของเพื่อนหรือคู่รักทั่วๆ ไป และแนะนำว่าตนเองมีธุรกิจส่วนตัว แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ทำให้ธุรกิจประสบปัญหาด้านการเงิน จึงหันมาลงทุนเทรดหุ้น หรือคริปโทเคอร์เรนซีแทน 




พร้อมทั้งแสดงรูปพอร์ตการลงทุนให้ดูว่าสามารถทำกำไรได้เป็นจำนวนมาก จากนั้นเพื่อนชาวจีนซึ่งเป็นมิจฉาชีพจะชักชวนหญิงสาวหรือชายหนุ่มชาวไทยซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้ลงทุนในลักษณะดังกล่าว และส่งลิงก์ให้สมัครลงทุนผ่านทางหน้าเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นสำหรับการลงทุน


ซึ่งแอปพลิเคชั่นดังกล่าวไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือรับรองโดย Google Play Store หรือ App Store หรือให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MT4, MT5 และบังคับให้เลือกโบรกเกอร์ 


จากนั้นมิจฉาชีพจะแนะนำขั้นตอนต่างๆ โดยผู้เสียหายต้องทำตามที่มิจฉาชีพบอกทุกขั้นตอน เพราะมิจฉาชีพอ้างว่าตนเองรู้แนวโน้มที่เหมาะแก่การลงทุน (Trend) หรือรู้ช่องโหว่ของระบบ หากทำตามจะสามารถทำกำไรได้เป็นจำนวนมาก




ทั้งนี้ การเติมเงินลงทุนสามารถทำได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ 1. ช่องทางการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดในประเทศไทยในชื่อบุคคลต่างๆ 2. ช่องทางการแลกเป็นเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีสกุล USDT ผ่านเว็บไซต์แลกเปลี่ยน Binance, Huobi และให้โอนเข้า Address ตามที่กำหนด


เมื่อผู้เสียหายลงทุน ในช่วงแรกมิจฉาชีพจะพาเทรดจนได้กำไรจำนวนหนึ่ง และให้ผู้เสียหายถอนกำไรที่ได้ออกมา จากนั้นมิจฉาชีพจะชักชวนให้ลงทุนเพิ่มขึ้น โดยจะมีการแนะนำกิจกรรม หรือโปรโมชันต่างๆ 


จากนั้นเมื่อผู้เสียหายทำการถอนเงิน จะพบว่าศูนย์บริการลูกค้าของแพลตฟอร์มที่ลงทุนแจ้งว่าติดเงื่อนไขต่างๆ เช่น ทำกำไรได้มากเกินกำหนด จะต้องทำการเสียภาษี โดยการเติมเงินเข้าไปเท่านั้น ไม่สามารถหักจากเงินลงทุนที่มีอยู่ในพอร์ตได้ หรือ แจ้งว่าเติมเงินหรือเทรดไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำตามที่กำหนดในกิจกรรม

 

ซึ่งมิจฉาชีพเป็นผู้สมัครให้โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือแจ้งว่าตรวจพบการฟอกเงิน ซึ่งจะต้องเติมเงินเข้าไปเพื่อยืนยันว่าเป็นการลงทุนจริง เป็นต้น และเมื่อผู้เสียหายเติมเงินเข้าไปเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว ก็จะพบเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก จนไม่สามารถหาเงินมาเติมได้ ทำให้ไม่สามารถถอนเงินที่ลงทุนดังกล่าวออกมาได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

 

จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า กรณีดังกล่าวมีลักษณะเข้าข่ายเป็นการหลอกลวง โดยการหลอกให้หลงรัก (Romance Scam) แล้วทำการชักชวนเหยื่อไปลงทุนในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหลอกลวง ซึ่งคาดว่ามีการทำเป็นขบวนการ ร่วมกันกระทำความผิดระหว่างเพื่อนชาวจีนผู้หลอกให้หลงรักและผู้จัดทำหรือสร้างเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันการลงทุนที่หลอกลวง และ

 

เนื่องจากการลงทุนบางส่วนมีการใช้คริปโทเคอร์เรนซีสกุล USDT จึงทำให้มีความยากต่อการตรวจสอบและติดตามเส้นทางการเงิน ประกอบกับปัจจุบันพบว่ามีหญิงสาว หรือชายหนุ่มชาวไทยที่ถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอฝากเตือนไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังการถูกชาวต่างชาติชักชวนให้ลงทุนในลักษณะดังกล่าว ให้มีสติตลอดเวลา ติดตามข่าวสาร ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และปรึกษาผู้ที่มีความรู้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะทำการลงทุนใดๆ โดยเฉพาะการถูกชักชวนโดยคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักผ่านแอปพลิเคชั่นหาเพื่อนออนไลน์ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย


ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูล เบาะแสได้ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือติดต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ที่ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 0 2142 2831 หรือสายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ข่าวที่เกี่ยวข้อง