รีเซต

'กนอ.-ส.อ.ท.' ดัน Local Content สู้ศึกค้าโลก

'กนอ.-ส.อ.ท.' ดัน Local Content สู้ศึกค้าโลก
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2568 ( 13:15 )
22

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวภายหลังความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศก้าวสำคัญของความร่วมมือภาคีรัฐและเอกชน ด้วยการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อยกระดับและเร่งรัดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายว่า กนอ. มีความพร้อมด้านพื้นที่ โครงสร้างพื้นฐาน และการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน  

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือนี้ยังเป็นเวทีสู่การพัฒนานวัตกรรม สร้างมูลค่าเพิ่ม และเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดย กนอ.มุ่งขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสู่การเป็น ‘Smart Industrial Estate’ ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง 


ทั้งนี้ การขอสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ครึ่งปี 2568 กว่า 1 ล้านล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับยอดขาย/เช่าที่ดินในนิคมปี 2566 กว่า 6 พันไร่ และปี 2567 กว่า 7 พันไร่ แต่ปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.-ก.ย.2568) จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1 หมื่นไร่ น่าจะไม่ถึง โดยเดือนก.ค.อยู่ที่  5,630 ไร่ คาดว่าปิดปีงบประมาณ 2568 จะมียอดขายรวม 6 พันไร่ เพราะเชื่อว่าโอกาสยังมีอยู่จากอัตราการเติบโตโดยปริมาณยอดขอกับยอดขายที่ดิน อีกทั้งยังมีที่ดินนอกนิคมฯ ซึ่งอัตราการขอและเปิดนิคมฯ ตัวเลขก็ไปด้วยกัน ส่วนปี 2569 มั่นใจว่าจะลงนามเปิดพื้นที่ได้ตามเป้าหมาย 1 หมื่นไร่แน่นอน โดยปัจจัยต้นทุนที่ดี โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม การออกกฏระเบียบที่ชัดเจน รวดเร็ว สะดวกสบายให้นักลงทุน


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกและการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ก็มีโอกาสสำคัญจากการไหลเข้าของเงินลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ซึ่งจากข้อมูลของ BOI ระบุว่า มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 สูงถึง 1.058 ล้านล้านบาท เติบโต 138% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยยังมีเสน่ห์ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งสร้างโอกาสให้ไทยในการดึงเม็ดเงินลงทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับกติกาใหม่ของโลก เช่น มาตรการกีดกันทางการค้า และข้อกำหนดเรื่องสัดส่วนวัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) หรือ RVC ที่เพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 60% ซึ่งทำให้การนับต้นทุนและการผลิตต้องเปลี่ยนแปลงไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง