รีเซต

"ค่าเหยียบแผ่นดิน" นทท.ต่างชาติ เริ่มเมื่อไหร่ เก็บคนละกี่บาท?

"ค่าเหยียบแผ่นดิน" นทท.ต่างชาติ เริ่มเมื่อไหร่ เก็บคนละกี่บาท?
TNN ช่อง16
13 มกราคม 2566 ( 09:21 )
71
"ค่าเหยียบแผ่นดิน" นทท.ต่างชาติ เริ่มเมื่อไหร่ เก็บคนละกี่บาท?

เตรียมพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียม "ค่าเหยียบแผ่นดิน" นักท่องเที่ยวต่างชาติ 24 ม.ค.นี้ คาดจะเริ่มได้ 1  มิถุนายน 2566 อัตรา 300 บาทราคาเดียว


หลังจากที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ รัฐบาลเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 300 บาท เพื่อนำมาใช้ในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และยังใช้ในการประกันภัยให้นักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งล่าสุดนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า  ในวันที่ 24 มกราคมนี้ คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ ท.ท.ช. จะหารือเรื่องเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศไทย (ค่าเหยียบแผ่นดิน) จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คนละ 300 บาท คิดเป็นอัตราเดียวกันไม่ว่าจะเดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางใดก็ตาม ทั้งทางบก-น้ำ-อากาศ 

ทั้งนี้ จะเก็บเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทย โดยใช้หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต และจะยกเว้นในกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้าไทยโดยใช้บอเดอร์พาส หรือหนังสือผ่านแดน ข้าราชการท้องถิ่นที่อยู่ชายแดน รวมถึงผู้ที่ถือพาสปอร์ต แต่มีหนังสืออนุญาตทำงานในไทยจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมส่วนนี้

จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้ทันกับกำหนดการที่วางไว้ว่า จะพยายามให้มีผลเริ่มต้นจัดเก็บวันที่ 1 มิถุนายนนี้ อีกกลุ่มที่อยู่ระหว่างการประเมินว่าจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมส่วนนี้ด้วย คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นั่งเรือเฟอร์รี่เข้ามาทางน้ำ แต่เป็นการแวะเที่ยวประเทศไทยแบบเช้า-เย็นกลับ เพราะแม้มีการท่องเที่ยวและใช้จ่ายเพียงสั้นๆ แต่โอกาสถัดไปหากเกิดความประทับใจจะเข้ามาเที่ยวไทยเป็นการส่วนตัวอีกครั้งแน่นอน

ส่วนความคืบหน้า จากนักท่องเที่ยวจีนเริ่มทยอยเข้ามาไทย หลังจีนเปิดประเทศเมื่อ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายคาดหวังจะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวไหลเข้ามาจำนวนมาก ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการหารือประเมินร่วมกับหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน ยังยืนยันว่า นักท่องเที่ยวจีนในเดือนนี้ (มกราคม) น่าจะยังมีมาไม่เกิน 1 แสนคน จากนั้นตัวเลขจะค่อยๆขยับเพิ่มขึ้นไป ตามเป้าที่วางไว้คือปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนได้ไม่ต่ำกว่า 5 – 7 ล้านคน

ขณะที่ปัญหาการหายไปของบุคลากรด้านท่องเที่ยว มากถึง ร้อยละ 40 ทั้งภาคบริการ ร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง  โดยกระทรวงฯพยายามแก้ปัญหาด้วยการร่วมมือกับ กรมการท่องเที่ยว เอกชน ท้องถิ่น สร้างบุคลากรขึ้นมาใหม่ผ่านโครงการอบรมให้ความรู้ด้านบริการ เบื้องต้น ขณะนี้มีนักศึกษาที่จบด้านการท่องเที่ยว ที่นำมาฝึกอบรมเตรียมเข้าสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว นอกจากนี้ ยังเตรียมไปหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นการส่วนตัวในสัปดาห์หน้า เพื่อปรึกษาความเป็นไปได้ในการช่วยเหลือธุรกิจโรงแรม ที่พัก ในระดับ เอสเอ็มอี รองรับนักท่องเที่ยวจีน และต่างชาติที่จะทยอยเข้ามาตลอดปีนี้ 

เพราะจากข้อมูลพบว่าปัจจบันนี้โรงแรมระดับเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ยังปิดตัวจากสถานการณ์โควิดไปมากกว่า ร้อยละ 50 โดยจะปรึกษาเรื่องขอให้สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูธุรกิจเอสเอ็มอี ให้สามารถกลับมาเปิดบริการภายในปีนี้ได้หรือไม่





ภาพจาก TNN Online

ข่าวที่เกี่ยวข้อง