'ชิลี' งัดมาตรการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสกระตุ้น คงสถานะฉีดวัคซีนแล้ว
ซานติอาโก, 28 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (27 ธ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขชิลีเปิดเผยว่าประชาชนชิลีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสกระตุ้น หากไม่ปฏิบัติตาม พวกเขาจะสูญเสียสถานะการเป็นผู้ฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงใบรับรองการเดินทาง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2022
"เรามีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคน การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะมันเกี่ยวพันกับความเป็นความตาย ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตมากกว่าคนที่ฉีดแล้ว" เอ็นริเก ปารีส รัฐมนตรีของกระทรวงฯ ระบุในงานแถลงข่าว
ปารีสระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป ชิลีจะระงับการใช้งานใบรับรองการเดินทาง ซึ่งอนุญาตผู้ถือเข้าสู่สถานที่สาธารณะ สำหรับผู้ถือที่อายุ 18 ปีขึ้นไปและไม่ได้ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นหลังฉีดวัคซีนครบโดสครบ 6 เดือน โดยปัจจุบันมีชาวชิลีอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วราวร้อยละ 91.9
แม้ชิลีจะอนุญาตประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามความสมัครใจ แต่ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถขอรับใบรับรองเพื่อเข้าบาร์ ร้านอาหาร ร้านค้า คอนเสิร์ต หรือเดินทางภายในและระหว่างประเทศได้ โดยผู้ที่ไม่มีใบรับรองจะต้องแสดงผลการทดสอบพีซีอาร์เป็นลบในระยะ 72 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 760 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย ในระยะ 24 ชั่วโมง ทำให้ชิลีมีผู้ป่วยสะสม 1,801,033 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตรวม 39,056 ราย