"ทรัมป์" อีกแล้ว! ธุรกิจเสื้อผ้าสหรัฐฯ ชะลอนำเข้า-หยุดจ้างเพิ่ม l การตลาดเงินล้าน

ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าและเครื่องประดับทั่วสหรัฐฯ ต่างชะลอคำสั่งซื้อและหยุดการจ้างงานหลังจากคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและเวียดนาม มีผลบังคับใช้ในวันพุธเช่นเดียวกับ Nike และ Lululemon ธุรกิจเหล่านี้ต้องเผชิญกับทางเลือกที่เป็นไปไม่ได้ นั่นคือการชดเชยต้นทุนภาษีนำเข้าด้วยการขึ้นราคาสินค้าประมาณร้อยละ 40 ซึ่งอาจทำให้ยอดขายตกต่ำ หรืออีกวิธีคือการดูดซับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและกดดันอัตรากำไรที่ลดลงอยู่แล้วให้น้อยลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเสื้อผ้าและรองเท้ารายเล็กต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ตรงที่ขาดห่วงโซ่อุปทานขนาดใหญ่ ทำให้พวกเขาต้องพึ่งพาเวียดนามและจีนเป็นอย่างมาก

เอียน โรเซนเบอเกอร์ ซีอีโอของ Day Owl บริษัทจากนิวยอร์กที่ก่อตั้งมา 6 ปีและผลิตเป้สะพายหลังในเวียดนาม ได้ระงับการสั่งซื้อในอนาคตไว้ เว้นแต่จะมีข้อตกลงในการลดภาษีนำเข้าของเวียดนามอย่างมีนัยสำคัญ 

โรเซนเบอเกอร์ ประเมินว่า Day Owl มีเวลา 30 วันก่อนที่จะปิดการดำเนินการไปก่อน แต่ด้วยวงจรการผลิตประมาณ 100 วัน การรอนานกว่านั้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้พลาดฤดูกาลชอปปิงสำคัญช่วงเปิดเทอม ซึ่งความเสียหายก็จะร้ายแรงพอที่จะเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของแบรนด์ พร้อมเสริมว่าพนักงานทั้ง 7 คนของเขาต่างถามว่าพวกเขาควรเตรียมตัวที่จะออกจากงานหรือไม่

โรเซนเบอร์เกอร์ กล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าของเขาจาก 5 ดอลลาร์สหรัฐฯเป็น 22 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ต้องเพิ่มราคากระเป๋าหรูจาก 155 ดอลลาร์สหรัฐฯเป็น 212 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้าน Footwear Distributors and Retailers of America ซึ่งมีสมาชิก ได้แก่ Nike, Walmart, Skechers และ Deckers คำนวณว่ารองเท้าวิ่งราคา 155 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ผลิตในเวียดนามจะต้องขึ้นราคาเป็น 220 ดอลลาร์สหรัฐฯในร้านค้าในสหรัฐฯ เพื่อชดเชยภาษีศุลกากรร้อยละ 46 เห็นได้ชัดเจนว่าเวียดนามมีความสำคัญต่อธุรกิจสหรัฐฯ

เวียดนามได้พัฒนาโรงงานเฉพาะทางที่ผลิตสินค้าทุกประเภทตั้งแต่รองเท้าวิ่งไฮเทคไปจนถึงชุดวอร์ม โดยเวียดนามเป็นแหล่งผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่นำเข้ามายังสหรัฐอเมริกา รองจากจีน และเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญสำหรับ Nike, Adidas และอีกหลายแบรนด์

หลังการเผยมาตรการภาษีช้อกโลกเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ของสหรัฐฯ เวียดนามได้ขอเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามไปยังสหรัฐฯออกไป 45 วัน และระบุว่าจะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น หลังจากทรัมป์และผู้นำเวียดนาม โต ลัม ตกลงเมื่อวันศุกร์ที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงในการยกเลิกภาษีดังกล่าว หุ้นของ Nike ร่วงลงร้อยละ 14 นับตั้งแต่ตลาดปิดทำการเมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษี ขณะที่หุ้นของ Adidas ร่วงลงร้อยละ 16 หุ้นของ Puma ร่วงลงร้อยละ 18 และหุ้นของ VF Corp ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท North Face ร่วงลงร้อยละ 31

บริษัทใหญ่เหล่านี้ทำงานร่วมกับโรงงานต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้พวกเขามีอำนาจต่อรองในการแบ่งต้นทุนภาษีศุลกากรกับซัพพลายเออร์ โฆษกของ VF Corp กล่าวว่า มีการกระจายธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานเป็นอย่างดีเพื่อจัดการภาษีศุลกากร

ด้านธุรกิจขนาดเล็ก เช่น Oiselle แบรนด์รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิงในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน มีศักยภาพในการรับภาระต้นทุนน้อยกว่า และมีทรัพยากรน้อยกว่าในการวางแผนทางเลือกอื่น แอเรียล นัตสัน ซีอีโอของ Oiselle ได้ขอให้พนักงานประจำ 14 คนของเธอทำงานเพื่อเตรียมการแผนสำรองรับมือกับภาษีศุลกากรสัก 2-3 แผน นอกเหนือจากงานประจำของพวกเขาแล้ว