เปิดรายละเอียด “ถ้อยแถลงร่วม” (Joint Declaration) ระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและไทย มีประเด็นอะไรบ้าง?

1. ยืนยันพันธะสัญญาต่อสันติภาพและความมั่นคง
ทั้ง 2 ฝ่ายย้ำเจตนารมณ์ที่ไม่สั่นคลอนต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างกัน ตามที่ได้ประกาศไว้ที่เมืองปุตราจายา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และจะงดเว้นการใช้หรือการขู่มขู่ที่จะใช้กำลัง รวมถึงยึดมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ และเคารพในเส้นเขตแดนระหว่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองในภูมิภาคบนพื้นฐานของการเคารพในอธิปไตย ความเท่าเทียม บูรณภาพแห่งดินแดน และอัตลักษณ์ของแต่ละชาติ
2. ปฏิบัติตามข้อตกลงคณะกรรมการชายแดนร่วม (GBC)
ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมดที่เคยตกลงกันไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อย่างจริงจัง
3. ตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer TEAM - AOT)
ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ได้ลงนามในข้อตกลงอ้างอิง (Terms of Reference -TOR) เพื่อจัดตั้ง “คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)” ซึ่งจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองการปฏิบัติตาม “ข้อตกลงหยุดยิง” (ceasefire) อย่างเต็มรูปแบบ
4. ลดความตึงเครียดและสร้างความเชื่อมั่นใหม่ระหว่าง 2 ประเทศ
ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะลดระดับความตึงเครียด ฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตามมาตรการดังนี้
ถอนกำลังและอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน ภายใต้การตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์ AOT
ตั้งทีมร่วมเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการแบบเป็นขั้นตอน (step-by-step action plan) เพื่อรองรับการถอนกำลัง โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team) ติดตามก่อนที่ AOT จะเริ่มปฏิบัติการเต็มรูปแบบ
งดเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข่าวปลอม หรือวาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง ผ่านช่องทางทางการหรือโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและสร้างบรรยากาศแห่งการเจรจาอย่างสันติ
ดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่น (Confidence-Building Measures) เพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจและสันติภาพตามแนวชายแดน รวมถึงการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติวิธี
ประสานงานการเก็บกู้กับระเบิดในพื้นที่ชายแดน (Humanitarian De-mining) เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม โดยไม่กระทบกระบวนการปักปันเขตแดน
แก้ไขข้อพิพาทชายแดนโดยสันติและกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้ง 2 ประเทศ ยืนยันจะไม่ใช้กำลังหรือการยั่วยุใด ๆ ในการจัดการปัญหาเขตแดน แต่จะดำเนินการผ่านกลไกทวิภาคี ได้แก่ คณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (Regional Border Committee) / คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) / คณะกรรมาธิการปักปันเขตแดนร่วม (JBC)
5. การรับรองสถานะหยุดยิง และการปล่อยตัวเชลยศึก
เมื่อมาตรการข้างต้นดำเนินการครบถ้วน ทั้ง 2 ประเทศจะรับรองอย่างเป็นทางการถึงการ “สิ้นสุดการสู้รบ” และในฐานะที่ไทยประสงค์จะแสดงเจตจำนงแห่งสันนติภาพ ไทยจะ “ปล่อยตัวเชลยศึกโดยเร็ว” เพื่อแสดงความจริงใจในการสร้างความไว้วางใจ
6. ความร่วมมือด้านความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้ง 2 ประเทศตกลงจะเพิ่มความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เสริมสร้างการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ และเข้มงวดการควบคุมชายแดน เพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทบต่อความมั่นคงของประชาชนและประชาคมโลก
7. เปิดบทใหม่แห่งสันติภาพ
ทั้ง 2 ประเทศตระหนักถึงความจำเป็นต้องวางเส้นทางสู่อนาคตที่สดใส ปราศจากพันธนาการจากความขัดแย้งในอดีต รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ โดยเคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา และข้อตกลงที่มีอย่างเต็มที่ อันจะเป็น “การเปิดบทใหม่แห่งมิตรภาพ ความร่วมมือ และสันติภาพ” ระหว่างกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
