BIS เข็นไอพีโอระดมทุน จ่อลั่นระฆังเทรด Q2 นี้
#BIS #ทันหุ้น - BIS เตรียมเสนอไอพีโอจำนวน 94 ล้านหุ้น ให้แก่นักลงทุนทั่วไปหลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว คาดเข้าเทรด mai ได้ช่วงไตรมาส 2/2565 บิ๊ก "ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ" ชี้นำเงินระดมทุนต่อยอดธุรกิจ-เสริมแกร่งระยะยาว พร้อมวางหมากปี 2565 ผลงานโตต่อเนื่อง
น.สพ.ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) หลังล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้วในช่วงที่ผ่านมา หวังเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น
// จ่อเข้า mai ช่วง Q2
อย่างไรก็ดี บริษัทมีทุนจดทะเบียน 157 ล้านบาท โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือ 314,000,000 หุ้น ซึ่งเป็นมีทุนชำระแล้ว 110 ล้านบาท หรือราว 220,000,000 หุ้น ส่วนที่เหลืออีก 94,000,000 หุ้นนั้นจะเสนอหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) ขายให้กับนักลงทุนทั่วไป โดยคาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับราคาเสนอขายไอพีโอและเข้าทำการซื้อขายใน mai ได้ช่วงต้นไตรมาส 2/2565
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านไอพีโอครั้งนี้ ส่วนหนึ่งนำไปเพื่อต่อยอดธุรกิจด้วยการขยายโรงงานการผลิตสินค้าและการลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักร เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำหรับปศุสัตว์ และเพื่อต่อยอดการผลิตวัคซีนในเชิงพาณิชย์ ส่วนที่เหลือจะใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วน จากเดิมที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่กว่า 2.0 เท่า รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานต่อไป
// วางหมากปี 65 โตต่อ
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการปี 2565 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตต่อเรื่องเมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจการทำตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม ประกอบกับมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อนำเสนอและตอบสนองความต้องในส่วนต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน BIS เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจยาและเวชภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงของคนไทย ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากบริษัทผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ระดับนานาชาติจำนวนมากอย่างต่อเนื่องกว่า 18 ปี
พร้อมกันนี้ยังเป็นเเจ้าของแบรนด์เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์หลากหลายแบรนด์ โดยมีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตนเองที่ได้มาตรฐานสากล บริษัทมีผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพสัตว์ครบวงจร คือ 1.ผลิตภัณฑ์รักษาและป้องกันโรคสำหรับสัตว์ (Animal Health Product) 2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition Product) 3. ผลิตภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับสัตว์ (Diagnostic Product) 4. ผลิตภัณฑ์อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับสัตว์ (Complete Feed Product) 5. ผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ (Ingredient Product) 6. ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทหากนับเฉพาะใน 3 กลุ่มธุรกิจแรกนั้นมีตัวเลขอยู่ที่ราว 70% ของรายได้ทั้งหมด
// ปันผลไม่ต่ำกว่า 30%
ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมบริษัทและบริษัทย่อย (Consolidated) และพิจารณาร่วมกับงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภท ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องไม่มีผลกระทบต่อแผนการลงทุนและการดำเนินงานปกติของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน กระแสเงินสด สภาพคล่องทางการเงิน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
อนึ่งงบการเงินสิ้นปีในปี 2564 ที่ผ่านมา BIS มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,987 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มราว 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1,784 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท
แม้อุตสาหกรรมปศุสัตว์ประสบปัญหา โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF อย่างรุนแรง ทำให้มีสุกรตายจำนวนมาก จนกระทบต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม แต่จากการที่บริษัทมีรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ ชุดตรวจโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF และ ชุดตรวจโควิด-19 แบบ RT PCR เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่ม เป็นนวัตกรรมที่ BIS ได้พัฒนาขึ้นร่วมกับพันธมิตรด้านการวิจัย-พัฒนา โดยเริ่มวางตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างสูง ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่อง