กทม.ระดมค้นหาผู้ป่วยโควิด-กลุ่มสัมผัสเสี่ยง พื้นที่เขตปทุมวัน-คลองเตย
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แก่ประชาชน โดยรถพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย พร้อมมอบเจลแอลแอลกอฮอล์ให้แก่ประชาชนที่ไปรอรับบริการ ที่บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ และตลาดคลองเตย เขตคลองเตย ซึ่งสำนักงานเขตปทุมวัน ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 16 ลุมพินี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
จัดหน่วยเคลื่อนที่ทำการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มเสี่ยงที่ภายในชุมชนบ่อนไก่ โดยรถพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 3 คัน เพื่อใช้ในงานเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวันชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ เขตปทุมวัน ทำการตรวจกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสสัมผัสสูงภายในชุมชนพื้นที่เขตปทุมวัน ในวันนี้จำนวน 1,000 คน เพื่อเร่งควบคุมโรค โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เขตปทุมวัน อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาตรวจคัดกรอง
จากนั้น ไปตรวจเยี่ยมการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ บริเวณลานจอดรถตลาดคลองเตย โดยสำนักงานเขตคลองเตย ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 41 คลองเตย และ กรมควบคุมโรค สธ.นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานฯ จำนวน 2 คัน เพื่อใช้ในงานเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ส่งตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธีการสว็อป (SWAB)จำนวนผู้รับการตรวจประมาณ 600 คน
พล.ต.อ.อัศวินเปิดเผยว่า กทม.ได้ร่วมกับสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ลงพื้นที่ให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด19เชิงรุก ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความเป็นห่วงในสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนพื้นที่คลองเตยและปทุมวัน จากการลงพื้นที่วันนี้จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดระบบการรอรับบริการให้เหมาะสม โดยให้นัดประชาชนมารอรับบริการตามช่วงเวลาเพื่อลดระยะเวลาการรอคอยและไม่ให้เกิดความแออัดในการใช้บริการ รวมทั้งให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่าหากติดเชื้อ กทม.พร้อมจะนำส่งเข้าสู่ระบบการรักษาของ กทม.ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง แบ่งการรักษาตามระดับอาการของผู้ป่วย พร้อมมอบยาฟาวิพิราเวียร์ให้แก่ผู้ป่วยตามระดับอาการที่แพทย์ประเมิน ซึ่งกทม.ได้ดำเนินการจัดซื้อยาดังกล่าวเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
“โดยการสว็อปในครั้งนี้ เขตปทุมวันสามารถให้บริการได้วันละ 1,000 คน ในส่วนของคลองเตยได้กำชับให้เขตเพิ่มจุดให้บริการตรวจให้ได้อีก 4 จุด สามารถตรวจได้วันละ 1,000 คน รวม 4,000 คน สำหรับผลการตรวจจะแจ้งให้ผู้รับการตรวจทราบภายใน 24 ชั่วโมง (ชม.)
“ผู้ที่มีผลการตรวจเป็น Negative หรือไม่ติดเชื้อขอให้ไปรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกคน ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานเขตเพิ่มจุดบริการวัคซีนให้ทั่วถึง ทั้งนี้ กทม.ตั้งเป้าจะฉีดให้ครอบคลุมประชาชนในพื้นที่ 50,000 คน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชาชนในพื้นที่” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯกทม.กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและต่ำได้เร่งประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตนให้ทราบโดยทั่วถึง โดยกรณีที่จัดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยภายในระยะ 1 เมตร โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย นาน 5 นาทีขึ้นไป อยู่ในสถานที่ปิดอับอากาศ หรือห้องแอร์กับผู้ป่วยเกิน 15 นาที สัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยโดยตรงโดยไม่ได้ป้องกัน เช่น ถูกไอหรือจามรด จับทิชชู หรือขยะปนเปื้อนจากผู้ป่วย หรือเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกับผู้ป่วยในขณะที่มีอาการป่วย ให้กักตัวทันที และเข้ารับการตรวจโควิด-19 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาล หรือหน่วยบริการตรวจเชิงรุกใกล้บ้าน
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ระหว่างรอผลตรวจให้กักตัว หรือหากมีอาการป่วยทางเดินหายใจ มีไข้หรือหายใจลำบากให้รีบติดต่อศูนย์บริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน และหากผลยืนยันติดเชื้อและยังไม่ได้รับการนำส่งเข้าสู่ระบบการรักษาสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์เอราวัณ 1669 หรือไลน์แอด bkkcovid19connect เพื่อประสานเจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการรักษาอย่างเร่งด่วนต่อไป สำหรับกรณีอื่นๆที่นอกเหนือจากกรณีของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้ปฏิบัติตนตามแนวทาง New Normal และสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติให้รีบติดต่อศูนย์บริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน