สหรัฐฯ-จีนเร่งชิงจุดยืนบนผิวดวงจันทร์ ยุคของเหมืองอวกาศกำลังเริ่มต้น

การแข่งขันครั้งใหม่ระหว่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน กำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ในวงโคจรของโลก แต่บนพื้นผิวของ ดวงจันทร์ มหาอำนาจทั้งสองต่างตั้งเป้าจะส่งมนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์ให้สำเร็จ
โดยสหรัฐอเมริกาวางแผนไว้ภายในปี 2028 ส่วนจีนวางแผนเอาไว้ภายในปี 2030 ซึ่งไม่เพียงสะท้อนความทะเยอทะยานทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเกมยุทธศาสตร์ระดับโลกที่อาจนิยามอำนาจอวกาศในศตวรรษนี้
ดวงจันทร์แหล่งทรัพยากรแห่งศตวรรษใหม่
ดวงจันทร์ไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายของการสำรวจอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นเหมืองอวกาศแห่งอนาคต บริษัทเอกชนจำนวนมากเริ่มมองเห็นศักยภาพทางเศรษฐกิจจากทรัพยากรหายาก โดยเฉพาะฮีเลียม-3 (Helium-3) ซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงพลังงานนิวเคลียร์สะอาด หรือใช้ระบายความร้อนให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมได้
ตัวอย่างล่าสุด คือ บริษัท Bluefors จากฟินแลนด์ ที่ลงนามข้อตกลงกับ Interlune สตาร์ทอัพด้านการขุดเหมืองอวกาศ เพื่อซื้อฮีเลียม-3 จากดวงจันทร์มากถึง 10,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 10,950 ล้านบาท หากโครงการสามารถทำได้จริง
การขุดจาก “เรโกไลต์” ไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างไรก็ตาม ภารกิจนี้ไม่ง่ายเลย เพราะฮีเลียม-3 กระจายอยู่ในชั้นฝุ่นผิวดวงจันทร์ หรือเรโกไลต์ (Regolith) ในปริมาณที่น้อยมาก นักวิเคราะห์ชี้ว่า Interlune อาจต้องบดหินหลายล้านตันเพื่อสกัดฮีเลียม-3 ให้ได้ในระดับเชิงพาณิชย์ และค่าใช้จ่ายในการส่งเครื่องมือขุดไปยังดวงจันทร์ก็มหาศาล ทำให้โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นเดิมพันแห่งศตวรรษของธุรกิจอวกาศ
ปัจจุบันไม่ใช่แค่บริษัท Interlune เท่านั้นที่มุ่งสู่การทำเหมืองบนดวงจันทร์ ล่าสุด บลู ออริจิน (Blue Origin) ของ เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อทำแผนที่ทรัพยากรบนดวงจันทร์ ทั้งฮีเลียม-3 และน้ำแข็ง เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ในอนาคต
พลังงานนิวเคลียร์คืออำนาจใหม่บนดวงจันทร์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ประเทศแรกที่สามารถผลิตพลังงานนิวเคลียร์บนดวงจันทร์ได้ก่อน อาจกำหนดเขตอิทธิพลของตนได้โดยพฤตินัย เพราะกลางคืนบนดวงจันทร์ยาวถึงสองสัปดาห์ ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ การมีแหล่งพลังงานนิวเคลียร์จึงอาจกลายเป็นเครื่องมือกำหนดอำนาจเชิงกฎหมายและภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคต
แม้หลายบริษัทเริ่มลงนามข้อตกลงเพื่อขุดและขายทรัพยากรจากดวงจันทร์แล้ว แต่ความเป็นจริงยังเต็มไปด้วยคำถาม ตั้งแต่ปริมาณฮีเลียม-3 ที่แท้จริงบนดวงจันทร์ ไปจนถึงวิธีสร้างเตาปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดนี้ได้จริง ซึ่งมนุษย์ยังไม่ประสบความสำเร็จแม้จะพยายามมากว่าหลายทศวรรษ
สำหรับบริษัท Interlune วางแผนจะส่งกล้องมัลติสเปกตรัมไปกับยาน Griffin-1 ของบริษัท Astrobotic ภายในปีหน้า เพื่อสำรวจความเข้มข้นของฮีเลียม-3 ในพื้นที่ต่าง ๆ ของดวงจันทร์ ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของการตื่นทองครั้งใหม่บนดวงจันทร์ที่จะนิยามอนาคตของเศรษฐกิจอวกาศโลก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
