SKRควักงบ250ล.เสริมแกร่ง เดินเกมรุกโมเดลรพ.เคลื่อนที่
SKR เล็งทุ่มงบ 250 ล้านบาท เสริมแกร่งบริการ-อัพเกรดไอที ปูทางโกยเงินระยะยาว พร้อมปักธงปี 2566 รายได้ปกติทะยาน 14-17% จากปีก่อน รับพอร์ตผู้ใช้บริการขยายตัว ผู้บริหาร “สุริยันต์ โคจรโรจน์” สบช่องลุยโรงพยาบาลเคลื่อนที่ เสริมฐานรับทรัพย์เพิ่ม
นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ รองกรรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ราว 250 ล้านบาท รองรับการปรับปรุงเครื่องมือการรักษาและขยายศูนย์ ประกอบกับการขยายเตียงและอื่นๆ หวังเสริมศักยภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น
ปีนี้รายได้ปกติโตต่อ
สำหรับผลประกอบการปี 2566 ทาง SKR ประมาณการรายได้ปกติ (ไม่รวมการการรักษาเกี่ยวกับโควิด-19) จะเติบโต 14-17% เมื่อเทียบกับปี 2565 ผลมาจากแนวโน้มผู้เข้ามาใช้บริการรักษาปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งบริษัทมีการขยายการให้บริการรูปแบบใหม่เพิ่มเติม
ด้านแนวทางการบริหารงานปีนี่บริษัทคงมุ่งเดินหน้าเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ ด้วยการเพิ่มสถาบันทางการแพทย์ใหม่ 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันทางเดินอาหารและตับ, สถาบันโรคหัวใจ และสถาบันหลอดเลือดสมองและระบบประสาท จากเดิมเปิดไปแล้ว 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันกุมารเวช, สถาบันกระดูกและข้อ, สถาบันสุขภาพเฉพาะทางสตรี รวมทั้งสิ้นเป็น 6 สถาบัน เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลของกลุ่มคนไข้รักษาโรคเฉพาะทางด้วยการผ่าตัด ผ่านการนำเสนอ "เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์"
ขณะเดียวกันทาง SKR มีแนวทางทำตลาดในกลุ่มลูกค้าประกันสังคมให้มากขึ้น โดยปีนี้บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนกลุ่มคนไข้ประกันสังคมเป็น 4.6 -5.1 แสนราย จากเดิมราว 3.65 แสนราย ปัจจุบันทางกลุ่มโรงพยาบาลของบริษัทมีโควตาในการรับคนไข้ประกันสังคมได้สูงถึง 6 แสนราย อีกทั้งมีเป้าหมายในเพิ่มอัตราค่ารักษาเฉลี่ยเพิ่มเป็น 5.6-5.8 พันบาทต่อราย จากปัจจุบันที่ 5.3 พันบาทต่อราย เพื่อสนับสนุนการเติบโตอีกทางหนึ่ง
ลุยโมเดลรพ.เคลื่อนที่
นอกจากนี้ ทาง SKR ยังมีแนวทางทำตลาดในส่วนของโมเดลธุรกิจโรงพยาบาลเคลื่อนที่ภายใต้ชื่อ “Sikarin Connect” ในการให้บริการตรวจสุขภาพ, ทันตกรรม ฯลฯ ให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีรถให้บริการส่วนดังกล่าว 10 คัน เพื่อทำตลาดลูกค้าในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐต่างๆ
อย่างไรก็ดี หากแผนงานในส่วนของธุรกิจโรงพยาบาลเคลื่อนที่ประสบความสำเร็จ ทางบริษัทวางเป้าหมายรายได้จากบริการ Sikarin Connect ในปี 2566 เพิ่มเป็น 100-120 ล้านบาท จากปีก่อน 70 ล้านบาท ตลอดจนหวังช่วยเสริมการเติบโตของบริษัทให้เป็นไปตามที่วางไว้ด้วย
แจกปันผล
พร้อมกันนี้ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด 0.16 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 330 ล้านบาท หลังบริษัทสามารถทำกำไรปี 2565 ได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่27 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น(Record Date) และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566
อนึ่ง ผลประกอบการปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่5.71 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.01 พันล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit) ทั้งปี 2565 อยู่ที่ 17.92% สูงกว่าช่วงก่อน Covid-19 ที่อยู่ระดับ 6-9%
ทั้งนี้ แม้ว่าบริษัทไม่มีรายได้จาก Covid-19 หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดลดลง รัฐบาลประกาศยกเลิกการรับรักษาคนไข้ผ่านสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ(Hospitel) และกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้โรค Covid-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่เนื่องจากบริษัทประสบความสำเร็จในด้านการรักษาโรคยากที่ซับซ้อนโดยการผ่าตัด ส่งผลให้จำนวนคนไข้ผ่าตัดขยายตัวตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริการโรงพยาบาลเคลื่อนที่หรือ "SIKARIN Connect" เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม
"ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับกลุ่มศิครินทร์ ซึ่งแผนงานปี 2566 เรามั่นใจว่า ศิครินทร์สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราได้พัฒนาศักยภาพทางการแพทย์เพื่อรองรับการรักษาโรคยากที่ซับซ้อน ภายใต้แนวคิด "เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์" นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริการโรงพยาบาลเคลื่อนที่ หรือ "SIKARIN Connect" มาสนับสนุน รวมทั้งการเข้ามาของกองทุนขนาดใหญ่ภายในประเทศ ยังถือหุ้นต่อเนื่องในระยะยาว" นายสุริยันต์ กล่าว