คมนาคม อัดฉีดแสนล้าน ลุยแลนด์บริดจ์ ปั้นจีดีพีใต้แตะ 1.2 แสนล้าน เพิ่มเป็น 10% ของประเทศ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษา ความเหมาะสม ออกแบบ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุนโครงการสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยกับอันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ วันนี้(1มี.ค.)ว่า ที่ปรึกษาต้องศึกษาแนวทางการพัฒนา มอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ และท่าเรือชุมพร และระนอง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง 2 ฝั่งทะเล เบื้องต้นจะใช้งบลงทุนรวม 1 แสนล้านบาท คาดว่าผลการศึกษาแล้วเสร็จ ปี 65

เบื้องต้นจะเปิดประมูลเป็นสัญญาเดียวรวมทุกโครงการ ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี เน้นให้กลุ่มทุนไทยก่อน หรือไทยเฟิร์ส ส่วนสัดส่วนการลงทุนของเอกชนไทยนั้นต้องศึกษาอีกครั้ง ซึ่งตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมกำหนดให้เอกชนไทยต้องถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50%

นายศักดิ์สยามกล่าวว่าขณะนี้ มีนักลงทุนรายใหญ่จากญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยแสดงความสนใจ นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้แจ้งไปยังเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้นักลงทุนต่างชาติรับทราบด้วย

นอกจากนี้ โครงการแลนด์บริดจ์ ยังมีแผนการการพัฒนาระบบการขนส่งทางท่อ หรือท่อขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย ซึ่งกระทรวงพลังงานจะรับผิดชอบในการดำเนินโครงการ

“โครงการนี้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มาก ลดระยะเวลาการเดินทางทางน้ำได้ 2วันครึ่ง และจะทำให้ไทยเป็นฮับการขนส่งทางน้ำในภูมิภาคอาเซียน เชื่อมต่อไปยัง ยุโรปแอฟริกา บิมสเทค เชื่อว่าจะเป็นการปรับโฉมการเดินทางน้ำของโลก คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จราวปี 68 ซึ่งใกล้เคียงกับโครงการพัฒนาอีอีซี ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อโครงการเข้าด้วยกันพอดี”

นายปัญญา ชูพานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า หลังจากโครงการแลนด์บริดจ์ เปิดดำเนินการครบ 10 ปีคือในปี 79 จะช่วยผลักดันมูลค่าจีดีพีภาคใต้ให้เพิ่มขึ้นจาก 2.4 หมื่นล้านบาท เป็น 1.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนจีดีพีภาคใต้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% ของจีดีพีภาพรวมของประเทศ