รีเซต

คอลัมน์ Taste Test : Mi Air Purifier 3C เครื่องฟอกอากาศดีๆ ในราคาจับต้องได้

คอลัมน์ Taste Test : Mi Air Purifier 3C เครื่องฟอกอากาศดีๆ ในราคาจับต้องได้
มติชน
18 มกราคม 2564 ( 13:06 )
190

นอกเหนือไปจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ในตอนนี้แล้ว ก็น่าจะมี “ฝุ่น” อีกอย่างหนึ่งที่คนไทยเริ่มรู้สึกหวาดกลัวกันมากขึ้น ทำให้เครื่องฟอกอากาศในไทยขายดิบขายดีกันมาตั้งแต่ปีก่อน

 

หนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่น่าจะได้ใจคนไทยไม่น้อย คือเครื่องฟอกอากาศจาก “เสียวหมี่” ที่ออกมาให้เลือกซื้อกันหลายรุ่น หลายขนาด มีบางช่วงเรียกได้ว่า ขาดตลาดกันเลยก็ได้

 

สำหรับเครื่องฟอกอากาศของมี่ที่ได้มาทดสอบครั้งนี้ เป็นรุ่น Mi Air Purifier 3C ซึ่งไม่ใช่เครื่องใหญ่มาก แต่ก็ไม่ใช่เครื่องขนาดเล็ก ขนาดของพื้นที่ในการวางนั้นน้อยกว่าหน้ากระดาษของ เอ4 เสียอีก ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน และด้วยขนาดของเครื่องที่ไม่หนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายเป็นไปได้อย่างสะดวก

 

เรื่องของรูปร่างหน้าตานั้น บอกเลยว่า ดูเรียบๆ เก๋ๆ มีหน้าจอแสดงผลอยู่ด้านหน้าตัวเครื่อง และปุ่มเปิดปิดเท่านั้น แต่เราก็ยังสามารถควบคุมเจ้าเครื่องนี้ได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Mi Home ทั้งการตั้งเวลา เปิด/ปิด เครื่อง หรือเพื่อการเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ Mi Smart อื่นๆ ซึ่งทำงานได้อย่างง่ายมาก โดยสามารถสั่งปิดการใช้งานจากที่ไหนก็ได้ และยังมีการแสดงค่าสถานะต่างๆ ของตัวเครื่องให้เราได้เห็น อย่างเช่น เปอร์เซ็นต์ของไส้กรอง

 

ตัวเครื่องนั้น ใช้แผ่นกรอง True HEPA ที่สามารถขจัดมลพิษได้ถึง 99.97 เปอร์เซ็นต์ โดยการผสมผสานกันสามชั้นที่ประกอบด้วยแผ่นกรองหลัก แผ่นกรอง True HEPA และถ่านกัมมันต์คุณภาพสูง ที่สามารถกำจัด พีเอ็ม 2.5, แบคทีเรีย, ไวรัส, ละอองเกสร, ฟอร์มาลดีไฮด์ กลิ่น และอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

โดยหน้าจอจะแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับพีเอ็ม 2.5 ถ้าขึ้นเป็นเส้นสีเขียว ก็แปลว่า อากาศบริสุทธิ์ แล้วถ้าสีเข้มเรื่อยๆ คือ เหลือง ที่หมายถึงมลพิษเล็กน้อยถึงปานกลาง แล้วไปแดง ก็จะแปลว่าค่ามลพิษสูง เกินมาตรฐาน เป็นอันตรายแล้ว

 

ซึ่งเราจะสามารถปรับค่าการใช้งานได้ 3 อย่างคือ อัตโนมัติ กลางคืน และปรับด้วยตัวเอง ที่จะเป็นรูปหัวใจ แล้วแต่ช่วงเวลาของการใช้งาน โดยส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้น ก็สามารถปรับได้ว่า ต้องการสว่างพิเศษ แสงน้อย และเปิดตลอดเวลา ก็ได้ แล้วแต่การใช้งาน

 

การเปลี่ยนไส้กรองก็ง่ายๆ เพียงแค่ถอดชิ้นส่วนที่เป็นพัดลมออก ก็จะเปลี่ยนไส้กรอง HEPA ได้ในทันที

 

สำหรับราคาจำหน่ายนั้นจะอยู่ที่ประมาณสามพันกว่าบาท ส่วนไส้กรองนั้น จะอยู่ที่ประมาณเก้าร้อยบาท แล้วแต่ร้านค้า ซึ่งถือว่า ในยุคสมัยที่นอกจากจะต้องสู้กับไวรัสแล้ว ยังต้องสู่กับฝุ่น เครื่องกรองอากาศของมี่รุ่นนี้ ช่วยเราได้จริงๆ เพราะราคาเรียกได้ว่า สามารถจับต้องได้ และยังทำงานได้ดีอีกด้วย

 

ในยามที่ฝุ่นพิษ ยังเป็นหนึ่งในอันตรายของผู้คน ก็ควรจะมีเครื่องฟอกอากาศดีๆ ไว้ใช้สักเครื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง