กสิกร คาด AMATA Q3/65 กำไรชะลอตัว ประเมิน Q4/65 ฟื้น
#ทันหุ้น - โบรกฯกสิกร คาด AMATA จะรายงานกำไรไตรมาส 3/65 ที่ 337 ลบ. เพิ่มขึ้น 47% YoY แต่ลดลง 48% QoQ กำไร 9 เดือน จะคิดเป็น 73% ของประมาณการปี 65 ของเรา แม้ยอดขายที่ดิน ใน Q3/65 คาดปรับ ตัวดีขี้นจาก Q2/65 แต่ยอดขายที่ดิน 9 เดือนแรกที่ 379 ไร่ จะยังต่ำกว่าเป้าทั้ง ปีที่ 1,000 ไร่อย่างมาก AMATA ยังเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ ทิศทางการQ4/65 จึงค่อนข้างน่าตื่นเต้น
ยอดขายที่ดิน Q3/2565 ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่น่าตื่นเต้น ฝ่ายวิจัยคาดว่า AMATA จะสามารถเพิ่มยอดขายที่ดินใหม่ได้ ประมาณ 200 ไร่ใน Q3/65 แม้เพิ่มขึ้น 25% QoQ แต่ลดลง 14% YoY ซึ่งยังต่ำกว่ายอดขายที่ดินเฉลี่ยรายไตรมาสในปี 64 ที่ 228 ไร่ เล็กน้อย ในมุมมองของฝ่ายวิจัยถือเป็นระดับที่ยังไม่ตื่นเต้น
เนื่องจากยอดขายที่ดินช่วง 9 เดือน แรกปีนี้ของ AMATA อยู่ที่เพียง 379 ไร่ ซึ่งคิดเป็น 38% ของเป้าหมายการขายที่ดินทั้งปีที่1,000 ไร่ ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยพบว่าไม่มีการขายที่ดินใหม่จากเวียดนามใน Q3/65 และที่ดินที่ขายทั้งหมดใน Q3/65 มาจากจังหวัดระยอง โดยอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ ยาง และอิเล็กทรอนิกส์ของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นและจีนเป็นลูกค้าหลักใน Q3/65
อย่างไร ก็ตาม AMATA ยังคงมั่นใจว่ายอดขายที่ดินในปี 65 จะบรรลุเป้าหมายและคาดว่าสร้างยอดขายที่ดินที่แข็งแกร่งใน Q4/65 จากความต้องการย้ายฐานที่ตั้งของนักลงทุนชาวจีนและไต้หวัน นอกจากนี้ การขายที่ดินในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากลูกค้ามีศักยภาพจำนวนมากอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาก่อนทำสัญญา
คาดกำไร Q3/65 จะอยู่ในระดับปานกลาง ฝ่ายวิจัยคาดว่า AMATA จะรายงานกำไร Q3/65 ที่ 337 ลบ. เพิ่มขึ้น 47% YoY แต่ลดลง 48% QoQ แม้ว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY แต่ก็ยังไม่น่าตื่นเต้น ในมุมมองของฝ่ายวิจัย เนื่องจากยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรายไตรมาสในครึ่งปีแรกที่ 601 ลบ. และในปี 64 ที่ 351 ลบ. โดยรายได้หลักที่จะเพิ่มขึ้น อย่างแข็งแกร่ง 34% YoY เป็น 1.2 พันลบ. จากรายได้การขายที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการขายที่ิดินรายไตรมาส และการขายโรงงานสำเร็จรูป (RBF) 4 แห่งในเวียดนาม
ในไตรมาสนี้จากที่ไม่มีธุรกรรมดังกล่าวใน Q3/64 จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ YoY ในมุม QoQ รายได้ปกติที่ลดลง 23% อันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินลดลง (ไม่มีรายได้จากเวียดนามใน Q3/65 เทียบกับ 45 ไร่ ที่โอนกรรมสิทธิ์ในQ2/65) รายได้ค่าเช่าลดลงหลังจากขาย RBF จำนวนมากในQ2/65-Q3/65และกำไรจากการขาย RBF ลดลง (จากการขาย RBF 8 แห่งในQ2/65) จะเป็นปัจจัยสาคัญที่ฉุดกำไรQ3/65 QoQ จากประมาณการของฝ่ายวิจัยกำไร 9 เดือนแรกของปี จะคิดเป็น 73% ของประมาณการปี 65 ของฝ่ายวิจัย ที่ 2.1 พันลบ. ซึ่ง เพิ่มขึ้น 51% YoY
แนวโน้มเป็นบวกใน Q4/65 นอกจากยอดขายที่ดินที่จะดีขึ้นมากใน Q4/65 ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ฝ่ายคาดว่ากำไรของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก QoQ ใน Q4/65 เช่นกัน โดยนอกเหนือจากรายได้จากการขายที่ดินที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ิ่ดินจำนวนมากทที่มีกำหนดจะโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ ฝ่ายวิจัยคาดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากธุรกิจทเกี่ยวกับพลังงานจะลดลงอย่างมีนัย จากค่าเงินบาททที่มีเสถียรภาพ หรือ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการขาย RBF ในเวียดนามทที่น่าจะมีการขายในจำนวนที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน จะช่วยผลักดันกำไร Q4/65 อย่างแข็งแกร่ง QoQ
ยิ่งไปกว่านั้นเราคาด AMATA จะได้รับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องและสามารถเริ่มขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ลองถั่น (เวียดนาม) ซึ่งล่าช้าไปเป็นปี และนาเตย (ลาว) ซึ่งบ่งชี้ว่ายอดขายที่่ดินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในปี 66
ฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 66 ที่24.0 บาท สำหรับ AMATA ความคืบหน้าเชิงบวกของการขายที่ดินและผลกำไรใน Q4/65 และการเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการย้ายที่ตั้งของนักลงทุนจากจีนและไต้ หวันจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ จะทำให้ AMATA มีความโดดเด่น เมื่อเทียบกับหุ้นอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการลงทุนในAMATA คือ ความล่าช้าในการออกใบอนุญาตก่อนที่ จะเริ่มการขายที่ดินในนิคมใหม่ของบริษัท และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีน ไต้หวัน รัสเซีย และนาโต