รีเซต

มาสด้า สกายแอคทีฟ ได้เวลา‘คาราวาน ปันสุข’

มาสด้า สกายแอคทีฟ ได้เวลา‘คาราวาน ปันสุข’
มติชน
29 สิงหาคม 2563 ( 17:40 )
146

หลังจากสถานการณ์ตลาดรถยนต์เริ่มส่งสัญญาณขยับฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด ค่ายรถยนต์จึงเริ่มเดินหน้าจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งในแง่การตลาดและการขาย หรือแม้กระทั่งกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อให้เกิดความคึกคักขึ้น

 

สำหรับ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากยอดขายเดือนกรกฎาคมเริ่มดีวันดีคืนเป็นเดือนละ 3 พันกว่าคัน จากเดือนก่อนหน้ายอดขายช่วงโควิดเดือนละ 1-2 พันคัน

 

ล่าสุดจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ผุดโครงการ มาสด้า คาราวาน (Mazda Caravan ปันสุข) คาราวานรถยนต์มาสด้าสีแดง โซล เรด ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่น นำทัพสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรมจิตอาสาส่งมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา และมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนในจังหวัดต่างๆ ทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ พร้อมกับกิจกรรมทดสอบสมรรถนะรถยนต์มาสด้า และร่วมพูดคุยกับผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ

 

 

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังถึงที่มากิจกรรมนี้ว่า จากการระบาดของโคโรนาไวรัสส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม มาสด้าจึงได้ริเริ่มสื่อสารกับลูกค้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย ให้เกิดแนวคิดเชิงบวกและสร้างสรรค์ ผ่านแฮชแท็ก “#StayDriven” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และส่งกำลังใจไปให้พี่น้องชาวไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน พร้อมจับมือผู้จำหน่ายทั่วประเทศจัดตั้ง “ตู้ปันสุข” ที่บริเวณหน้าโชว์รูม เพื่อเป็นสื่อกลางในการแบ่งปันอาหารและสิ่งของที่จำเป็นแก่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ และเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของมาสด้าอีกครั้ง เราจึงได้เดินหน้าจัดกิจกรรม MAZDA CARAVAN ปันสุข

 

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ ขยายความเพิ่มเติมว่า รถยนต์มาสด้าภายใต้สกายแอคทีฟเทคโนโลยีทุกรุ่น ได้แก่ มาสด้า MX-5, มาสด้า2, มาสด้า3, มาสด้า CX-30, มาสด้า CX-3, มาสด้า CX-5 และ มาสด้า CX-8 สีแดง โซล เรด ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้า เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการผลักดันแบรนด์มาสด้าให้เป็นที่จดจำของลูกค้าในระดับภูมิภาค และได้แบ่งปันสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม

 

“ขบวนคาราวาน ‘MAZDA CARAVAN ปันสุข’ จะออกเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้า และส่งมอบสื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา และทุนการศึกษา ให้แก่เด็กนักเรียนและประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทั้ง 4 ภูมิภาคด้วยกัน โดยเริ่มจาก จันทบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ กระบี่และหาดใหญ่ ตามลำดับ เริ่มแบ่งปันความสุข ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2563 ที่ จ.จันทบุรี และต่อเนื่องไปตลอดเดือนกันยายน” นายธีร์กล่าว

 

สำหรับทริปแรกนี้ได้รับมอบหมายภารกิจให้ทดลองขับ มาสด้า 3 ที่เคยทดลองขับและนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

แต่ที่พิเศษไปกว่าเดิมก็คือ ครั้งนี้นอกจากได้ทดลองขับแล้ว ยังมีโอกาสได้ทดลองนั่งเป็นผู้โดยสาร เพื่อพิสูจน์ดูว่าการออกแบบโดยยึดผู้โดยสารเป็นเป้าหมายในการออกแบบ มาสด้า 3 รุ่นนี้นั้น ทำได้แค่ไหนกันแน่

 

ปรากฏว่าสิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนคือในเรื่องความสะดวกสบายในการนั่งโดยสาร อธิบายได้ด้วย สามารถนั่งพิมพ์งานบนมือถือ โดยมีสื่อมวลชนนักทดสอบรถเป็นผู้ขับในรูปแบบใช้งานจริงได้โดยใช้เวลานั่งก้มหน้าพิมพ์งานบนมือถือได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 1 ชม. ได้ไม่ยากเย็นและไม่เวียนหัวด้วยซ้ำ

 

ส่วนคำวิจารณ์ว่ารถยนต์มาสด้า ภายในจะไม่กว้างขวางเหมือนบางยี่ห้อ แต่ถ้าตัดสินจากองค์รวมในเรื่องความสะดวกสบายในการโดยสาร ไม่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาในการขับทางไกล มาสด้า 3 ถือว่าโดดเด่นมาก เพราะถ้าเป็นบางรุ่น ถ้านั่งแบบนี้มีโอกาสอาเจียนสูงมาก

 

ซึ่งค่ายมาสด้าตั้งใจออกแบบให้ มาสด้า 3 เป็นรถยนต์ต้นแบบแห่งความสง่างาม เรียบหรู เสมือนงานศิลปะ บ่งบอกสไตล์พรีเมียม จึงทำให้ออกมาโดนใจใครหลายคน มองว่างามหยด การันตีด้วยรางวัลมากมาย

 

ขุมพลังเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ตอบสนองดี ควบคุมการขับขี่ได้แม่นยำและสมดุล ด้วยแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ สกายแอคทีฟ วิฮีเคิล อาคิเทคเจอร์

 

ห้องโดยสารออกแบบเน้นสปอร์ต หรู เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ 2 ตำแหน่ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลข้อมูลบนหน้าปัดและมาตรวัดดิจิทัลแบบ TFT LCD ได้หลากหลายรูปแบบ

 

ระบบเสียงโบส (Bose) รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง มาเจอห้องโดยสารเงียบมาก ช่วยสร้างบรรยากาศสุนทรีย์ได้ดีทีเดียว

 

โดยรวมแล้ว มาสด้า 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ครบเครื่อง เหมาะกับคนที่ชอบความทันสมัย แบบสปอร์ต แต่นั่งสบาย ใช้งานได้ทั้งในเมืองและวิ่งทางไกล ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นมาสด้าในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

นายพล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง