"แอตต้า" จี้รัฐเร่งแก้ปม "แท็กซี่"โกง

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วางแผนของบประมาณอยู่ที่ 3,180 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างชาติเที่ยวไทย
โดยเฉพาะตลาด ต่างประเทศ ซึ่งเดือนพฤษภาคม 2568 เห็นตัวเลข นักท่องเที่ยวต่างชาติตกท้องช้างลงแล้ว สะท้อนจากรายงานสถิติตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย เดือนมกราคมอยู่ที่ 3,709,102 คน กุมภาพันธ์ 2,720,457 คน มีนาคม 2,547,116 คน ช่วง 1-18 พฤษภาคม อยู่ที่ 1,316,443 คน เท่านั้น
เห็นชัดเจนแล้วว่าตัวเลขตกลงเรื่อยๆ ทำให้รัฐบาลต้องเร่งหาเครื่องมือสร้างความ เชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติม
ขณะนี้เป็นเวลาที่เราต้องเร่งดูแลกวดขันระบบการให้บริการในประเทศไทย โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะ อย่างแท็กซี่ หลังจากมาสเตอร์การ์ด ระบุว่ากรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในสี่เมืองที่นักท่องเที่ยวถูกฉ้อโกงมากที่สุด
โดยร้อยละ 48 เกิดจากแท็กซี่และรถเช่า ปัญหาแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนหันไปต่างประเทศ อาทิ เวียดนามแทน กระทบเม็ดเงินจากภาคการท่องเที่ยวหนัก
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน และกลายเป็นข่าวสื่อออกไปทั่วโลก แต่ไม่ได้ถูกหยิบยกมาแก้ไขให้หมดสิ้นไป ทำให้เมื่อมีกระแสเกิดขึ้นแล้ว ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯและ ททท.ก็ควรใช้โอกาสนี้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา เพื่อเดินหน้าไปด้วยกันให้ได้
เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างการออกมา เรียกร้องของกลุ่มตัวแทนแท็กซี่ ที่มองว่าถูกเอาเปรียบจากแอพพลิเคชันเรียกรถ จนลุกลามไปถึงการขู่ปิดสนามบิน คงไม่ได้กังวลมากนัก เพราะยังไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
แต่หากมีการปิดสนามบินได้จริง ประเทศไทยก็ต้องพิจารณากันใหม่แล้ว เพราะหากใช้กฎหมู่เพื่อเรียกร้องความชอบธรรมให้ตัวเอง โดยไม่ได้มองสังคมรอบข้างก็คงไม่ใช่
รวมถึงกระแสส่วนใหญ่ก็มองว่า ที่เลือกใช้แอปฯ เพราะแท็กซี่ไม่ได้ปรับตัวเพิ่ม มาตรฐานในการให้บริการเลย