รีเซต

"ตรุษจีน 2566" วันที่เท่าไหร่ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ตรงกับวันไหน?

"ตรุษจีน 2566" วันที่เท่าไหร่ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ตรงกับวันไหน?
TNN ช่อง16
6 มกราคม 2566 ( 15:40 )
919

วันตรุษจีน 2566 วันที่เท่าไหร่ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยวตรงกับวันไหน? ไขข้อสงสัยทำไมต้อง "สีแดง"



ภาพจาก TNN Online

 


ประวัติวันตรุษจีน


วันขึ้นปีใหม่ของจีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเอง


ตรุษจีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆ แล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่ จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น


 วันก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆ กัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง



ภาพจาก TNN Online

 


วันตรุษจีน 2566 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว ตรงกับวันไหนบ้าง?

-วันจ่าย ตรงกับ วันที่ 20 มกราคม 2566 

เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ 

-วันไหว้ ตรงกับ วันที่ 21 มกราคม 2566 

เป็นวันที่ทุกคนจะทำการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆที่ซื้อเตรียมไว้ก่อนหน้านี้

-วันเที่ยว วันตรุษจีน ตรงกับ วันที่ 22 มกราคม 2566 

เป็นวันที่ทุกคนพากันออกไปท่องเที่ยวและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม ไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ พร้อมทั้งถือเคล็ดต่างๆตามธรรมเนียม เช่น งดทำบาป ไม่พูดคำหยาบฯลฯเพื่อความเป็นสิริมงคล



ภาพจาก TNN Online

 


15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน

-วันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน

-วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด

-วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน

-วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย

-วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข

-วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ

-วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์

-วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้

-วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ  ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน

-วันที่สิบสาม ถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย

-วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน



ภาพจาก TNN Online

 


ไขข้อสงสัย ทำไม "เทศกาลตรุษจีน" ถึงนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง?


ชาวจีนมีความเชื่อที่ว่า “สีแดง” เป็นสัญลักษณ์ของสีที่เป็นสิริมงคล ความหมายของสีแดงนั้นคือมีความสุข มีความโชคดี มีอายุที่ยืนยาว รวมถึงสีแดงเป็นสีที่มีพลังอำนาจที่สามารถขับไล่สิ่งอัปมงคลและสิ่งชั่วร้าย สิ่งอัปมงคล และภูตผีปีศาจทั้งหลาย นอกจากนี้สีแดงยังเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไฟ ที่สื่อถึงความเป็นมงคลและความเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย


นอกจากนี้ของประดับอื่นๆในช่วงเวลาเทศกาลตรุษจีนก็ยังนิยมใช้สีแดงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงานเชือกถักที่ใช้แขวนประดับบ้าน กระดาษเขียนอักษรมงคล เทียน ซองอั่งเปา แม้แต่ของเซ่นไหว้ก็ยังมีการเอากระดาษสีแดงมาแปะเอาไว้ เพราะชาวจีนส่วนใหญ่จะเชื่ออยู่ในสายเลือดว่าสีแดงเป็นสีแห่งมงคล สีแห่งแสงสว่าง ดังนั้นบ้านที่ติดสีแดง คนที่สวมชุดแดงหรือเด็กที่พกซองแดง จึงสามารถอยู่รอดปลอดภัยมีชีวิตที่สงบสุข


ทั้งนี้ ยังมีตำนานเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดอันดุร้ายชื่อว่า “กั้วเหนียน” หรือ เหนียน ที่มักออกอาละวาดสร้างความหวาดกลัวอยู่ตลอด แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียบพร้อมเพียงใดย่อมมีจุดอ่อนเสมอ มี 2 ตำนานเล่าเกี่ยวกับการปราบเจ้าสัตว์ร้ายนี้คือผู้เฒ่าเมื่อครั้งที่พบเจอเหนียนเขาได้เปลื้องผ้าออกทั้งหมดเหลือไว้เพียงชุดชั้นในสีแดง และเจ้าสัตว์แข็งแกร่งนี้กลับสยบยอมลงอย่างง่ายดาย ส่วนอีกทางหนึ่งเล่าว่าเหนียนเตรียมออกอาละวาดตามเมืองแต่ได้พบกับเสื้อผ้าสีแดงที่ตากอยู่ตามบ้านเรือนและกองเพลิงตามถนนทำให้เจ้าตัวร้ายตกใจและหนีหายไป สะท้อนถึงการไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปในวันแสนมงคลอย่างตรุษจีนผ่านตำนานเรื่องเล่าอันเป็นกุศโลบายนี้ได้อย่างมีเหตุมีผล และสีแดงยังแสดงถึงความรุ่งโรจน์และโชคดีมีสุขด้วย



ภาพจาก TNN Online

 




ที่มา TNN รวบรวม / ข้อมูลสำนักหอสมุดกลาง รามคำแหง

ภาพจาก TNN Online

ข่าวที่เกี่ยวข้อง