รีเซต

ตร.นำ 8 หมายจับ รวบอดีตแม่บ้าน รพ.ดัง ร่วมกับเพื่อน ปลอมแปลงเอกสารฉ้อโกง

ตร.นำ 8 หมายจับ รวบอดีตแม่บ้าน รพ.ดัง ร่วมกับเพื่อน ปลอมแปลงเอกสารฉ้อโกง
มติชน
19 มกราคม 2565 ( 18:40 )
83
ตร.นำ 8 หมายจับ รวบอดีตแม่บ้าน รพ.ดัง ร่วมกับเพื่อน ปลอมแปลงเอกสารฉ้อโกง

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรรณชัย สุขแจ่ม สวป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ร่วมกันจับกุม น.ส.บุปผา หรือจิ้ม ถือทอง อายุ 41 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช

 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 326/2557 ลงวันที่ 26 กันยายน 2557 และ 132/2559 133/2559 134/2559 135/2559 136/2559 137/2559 138/2559 ลงวันที่ 20 เมษายน 2559 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิเอกสารทางราชการ ใช้เอกสารปลอม และร่วมกันฉ้อโกง” รวมทั้งสิ้นจำนวน 8 หมายจับ

 

พฤติการณ์การจับกุม ก่อนหน้านี้ระหว่างปีพ.ศ. 2557 น.ส.บุปผา หรือจิ้ม ผู้ต้องหา ขณะทำงานเป็นแม่บ้านโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับเพื่อนที่เป็นอดีตพยาบาลทำงานที่เดียวกัน ใช้เอกสารบัตรประชาชนของบุคคลอื่นนำไปกู้เงินตามแหล่งเงินทุนต่าง ๆ

 

และใช้เอกสารของผู้ต้องหาเป็นผู้คำประกัน โดยที่ผู้เสียหายที่ถูกนำเอกสารไปกู้เงินไม่รับทราบเรื่องแต่อย่างใด ต่อมาผู้เสียหายถูกทวงถามหนี้จีงทราบว่าถูกนำเอกสารไปใช้ จึงได้แจ้งความดำเนินคดี

 

ต่อมาผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้พากันหลบหนี โดย น.ส.บุปผา หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2558 มาทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายขนมจีน จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้

 

น.ส.บุปผา ผู้ต้องหา ได้อ้างว่า น.ส.สุพัตรา เพื่อนที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล ได้นำเอกสารมาให้ตนเองลงลายมือชื่อ พร้อมกับนำสำเนาบัตรประชาชนตนไปใช้ ตอนแรกไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร แต่มารู้ตอนหลังว่าเพื่อนคนนี้นำเอกสารไปค้ำประกันเงินกู้ ตนไม่รู้ว่าได้เงินกู้มาเท่าไรไม่เคยเอามาให้ดู ตนทำไปโดยที่ไม่ได้ส่วนแบ่งอะไร หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกัน และมารู้ทีหลังว่ามีการนำเอกสารไปค้ำประกันเงินกู้อีกหลายราย

 

ขณะที่ พ.ต.อ.ยุทธนา ผกก.สภ.บ่อผุด กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่เกาะสมุย ที่นำบัตรประชาชนของตนไปให้ผู้อื่นใช้เพื่อนำไปค้ำประกันหนี้กับบุคคลอื่น

 

ซึ่งปรากฏว่าคนที่นำบัตรประชาชนไปใช้ก็หลอกลวงผู้อื่นอีกครั้งหนึ่ง หลังจับกุมผู้ต้องหาได้สอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่าได้มอบบัตรประชาชนไปให้กับคนอื่นนำไปใช้ในการกระทำความผิดโดยที่ตัวผู้ต้องหาไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามในส่วนของการกระทำความผิดต้องดำเนินการในส่วนของกฎหมายต่อไป

 

ขอฝากถึงประชาชนที่จะนำบัตรประชาชนตนมอบให้ผู้อื่นนำไปใช้หรือไปแสดงตนแทนตนเองนั้น ให้ตรวจสอบให้ดีว่าบุคคลที่เรามอบหมายไปเอาไปใช้ทำอะไร และฝากอีกว่าหากให้บัตรประชาชนกับผู้อื่นไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ทางที่ดีควรนำบัตรประชาชนของตัวเองไปกระทำการด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและตามกฏหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง