OPEC+ เพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน บล.กสิกรฯมองเชิงลบหุ้นพลังงาน

#หุ้นพลังงาน #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
.
เร่งเพิ่มการผลิตอีกครั้ง
OPEC+ เห็นชอบเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 411KBD ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนที่สองติดต่อกันของการเร่งเพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง แทนที่คาดว่าราคาน้ำมันจะอ่อนตัวลงในระยะสั้นและอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งยังสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในกลุ่ม OPEC+
คงมุมมองเชิงลบต่อราคาน้ำมัน โดยความเสี่ยงไม่ใช่เพียงแค่อุปทานล้นตลาด แต่ยังอาจนำไปสู่การล่มสลายของกลุ่ม OPEC+ หุ้นเด่น ได้แก่ PTT, OR, BANPU, IVL
.
Investment Topics
เร่งเพิ่มการผลิตอีกครั้ง ในการประชุมออนไลน์ของกลุ่ม OPEC+ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มได้ตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 411 KBD ในเดือนมิถุนายน ซึ่งนับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันของการเร่งเพิ่มกำลังการผลิต การเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวจะส่งผลให้การเพิ่มอุปทานรวมในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน อยู่ที่ 960 KBD หรือเกือบครึ่งหนึ่งของแผนการยกเลิกการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจที่วางไว้ที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบลดลงราว 2% ในวันจันทร์จากการตอบสนองต่อการเพิ่มอุปทานนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของอุปสงค์น้ำมันโลกจากสงครามภาษีที่ยังคงดำเนินอยู่
.
ความเป็นไปได้ 3 แนวทางที่อาจเกิดขึ้น
การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนนโยบายที่มีนัยสำคัญของ OPEC+ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ใช้การลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคา ความเป็นไปได้ 3 แนวทางที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
1. การใช้ราคาต่ำกดดันประเทศสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงและเพื่อความสามารถในการควบคุมอีกครั้ง
2. เลิกใช้นโยบายควบคุมราคาและหันมาใช้การควบคุมส่วนแบ่งการตลาดแทน โดยไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด บล.กสิกรไทยคาดว่าราคาน้ำมันจะอ่อนตัวลงในระยะสั้นจากการเพิ่มอุปทานอย่างเหนือความคาดหมาย ขณะที่ในกรณีที่สองสะท้อนแนวโน้มราคาน้ำมันต่ำต่อเนื่องในระยะยาว
3. กลุ่มอาจเชื่อว่าพื้นฐานของตลาดยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะระดับปริมาณสต๊อกน้ำมันของ OECD ที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดมีความตึงตัวเพียงพอที่จะรองรับอุปทานเพิ่มเติมจากกลุ่มได้
.
มุมมองของบล.กสิกรไทย
บล.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากความเสี่ยงไม่ใช่เพียงอุปทานส่วนเกิน แต่ยังอาจนำไปสู่การล่มสลายของความร่วมมือในกลุ่ม OPEC+ โดยหากเกิดการล่มสลายของกลุ่ม OPEC+ ครั้งนี้ อาจทำให้ราคาน้ำมันลดลงไปสู่ระดับ 20-30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เช่นเดียวกับกรณีสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียในช่วงปี 2557-2558 โดยไม่ต้องรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านอุปทานนี้จะส่งผลกระทบทางลบมากที่สุดต่อกลุ่มบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ชั้นนำ เช่น PTTEP ในขณะเดียวกัน หุ้นที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจำกัด ได้แก่ ผู้ค้าปลีกน้ำมันและบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ (conglomerate) บล.กสิกรไทยคาดว่าราคาหุ้นของบริษัทปิโตรเคมีและโรงกลั่นจะลดลงตามการขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่เกิดจากราคาน้ำมันที่อาจลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นจะฟื้นตัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากสงครามภาษีที่มีต่ออุปสงค์ปลายทางของน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
.
Valuation and Recommendation
คงมุมมองเชิงลบต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานในตลาดน้ำมัน บล.กสิกรไทยคงความชอบ PTT, OR และ BANPU สำหรับหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากบล.กสิกรไทยคาดว่าราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้จะมีความมั่นคงในช่วงราคาน้ำมันขาลง ขณะเดียวกัน บล.กสิกรไทยยังคงเลือก IVL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากบริษัทมีโรงงานผลิตกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการเชื่อมต่อทางการค้าที่ถูกแยกออกจากกันอันเป็นผลจากสงครามภาษี