BAFS โบรกฯ คาด Q2/66 ฟื้น เที่ยวบินจากจีนเพิ่มหนุนยอดเติมน้ำมัน
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 36.50 บาท เชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้บริหารยังเปิดเผยอีกว่าบริษัทอาจจะปรับเพิ่มเป้าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินปีนี้ที่ 4,200 ล้านลิตรขึ้นอีก ในขณะที่ฝ่ายวิจัยเคจีไอ ยังคงสมมติฐานเอาไว้ที่ 4,844 ล้านลิตร
ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ คาดว่า BAFS ในไตรมาส 2/66 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 46 ล้านบาท ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 120 ล้านบาท แต่ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 โดยผลประกอบการที่พลิกฟื้นจะเป็นเพราะปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้นถึง 69% เป็น 1,100 ล้านลิตร แต่กำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ เพราะไม่มีรายได้เงินปันผลพิเศษ 32 ล้านบาทจากโซลาร์ฟาร์ม 2 แห่งในญี่ปุ่น ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA 10 เมกะวัตต์เหมือนในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งหากไม่รวมรายได้จากเงินปันผลพิเศษดังกล่าว คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักงวดไตรมาส 2/66 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ เพราะปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก กพท. มีแผนจะเพิ่ม slot เที่ยวบินจากจีนของสายการบิน 24 แห่งเป็นประมาณ 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป จากประมาณ 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยยังคาดว่าปริมาณการขนส่งเชื้อเพลิงของ BAFS จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/66 โดยเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสแรกปีนี้เป็น 215 ล้านลิตร เนื่องจากอัตราการใช้งานท่อส่งน้ำมันในภาคเหนือ ของ Fuel Pipeline Transportation (FPT) เพิ่มขึ้น
ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ ระบุอีกว่า BAFS มีแผนจะเชื่อมท่อส่งน้ำมันภาคเหนือของ FPT กับท่อส่งน้ำมันของ Thai Petroleum Pipeline (Thappline) ที่บางปะอิน จังหวัดอยุธยา โดยปัจจุบันอยู่ในกระบวนการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อเชื่อมท่อส่งน้ำมันเข้าด้วยกัน เชื่อว่าเมื่อเริ่มเปิดดำเนินการท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อกันแล้ว ธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงของ BAFS จะพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร
ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น BAFS ให้ราคาเป้าหมายที่ 35 บาท โดยคงกำไรปกติในปีนี้อยู่ที่ 317 ล้านบาท ฟื้นตัวจากปีก่อนที่ขาดทุนปกติ 319 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะมีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66 ซึ่งเป็นไปตามภาคท่องเที่ยว โดยปริมาณเติมน้ำมันเฉลี่ยต่อวันล่าสุดช่วง เม.ย. -พ.ค. 2566 อยู่ที่ 11.5 ล้านลิตร เทียบกับไตรมาส 2/65 ที่ 7.2 ล้านลิตร แต่เทียบกับไตรมาส 1/66 คาดว่ากำไรปกติ
จะลดลง เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ของท่องเที่ยว รวมถึงในไตรมาส 1/66 มีรายได้เงินปันผลจากโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น 32 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมองว่าในครึ่งปีหลัง ผลดำเนินงานจะเร่งตัวมากขึ้น หนุนโดยปัจจัยฤดูกาล และการจัดสรร slot เที่ยวบินจากจีนเพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มเป็นราว 430 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากปัจจุบัน 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ มีผลตั้งแต่ 1 มิ.ย. นี้