พิชัยแย้มส่งออกพ.ค.โตสองหลัก มั่นใจทั้งปีไม่ติดลบ

แรงส่งออกเดือนพฤษภาคมโตสองหลัก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2568 ยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีอัตราเติบโตในระดับเลขสองหลัก ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจ แม้จะเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีนำเข้าขั้นต่ำของสหรัฐฯ หรือ Universal Tariffs ที่บังคับใช้ในอัตรา 10% กับทุกประเทศ รวมถึงไทย ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นายพิชัยแสดงความมั่นใจว่า ภาคการส่งออกจะยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยตลอดทั้งปี โดยประเมินว่า มูลค่าส่งออกปี 2568 จะไม่ติดลบ
แถลงภาวะการค้าเร็วขึ้นเป็น 18 มิ.ย.
เพื่อสื่อสารข้อมูลให้ภาคเอกชนและนักลงทุนรับรู้แนวโน้มอย่างทันท่วงที กระทรวงพาณิชย์จึงได้เลื่อนกำหนดการแถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือนพฤษภาคม จากช่วงปลายเดือนมาเป็นวันที่ 18 มิถุนายนนี้
นโยบายรับมือภาษีสหรัฐฯ ผ่านค่าเงินบาท
สำหรับแนวทางรับมือกับภาษีนำเข้าตอบโต้จากสหรัฐฯ หรือ Reciprocal Tariffs นายพิชัยเสนอว่า รัฐบาลควรดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับอ่อนค่ากว่าปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงที่เงินบาทแข็งเกินไป อาจส่งผลให้สินค้าไทยแข่งขันด้านราคายากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์ได้ฝากข้อเสนอแนะถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ให้พิจารณาควบคุมค่าเงินบาทให้อยู่ในช่วง 37-38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อทั้งภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยว
เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
นายพิชัยกล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนหารือผ่านระบบประชุมทางไกล โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้ได้ เนื่องจากอยู่ในกรอบของการเจรจาระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีความคืบหน้าอย่างชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ และหากต้องพบปะเจรจาแบบตัวต่อตัว นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นหัวหน้าทีมไทยไปเจรจาที่สหรัฐฯ ซึ่งเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
หากการเจรจาไม่เสร็จสิ้นภายในกรอบระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ สหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีว่าอาจขยายระยะเวลาให้กับประเทศที่มีความตั้งใจในการเจรจาอย่างจริงจัง