ส่องหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ! จับตา “ทรัมป์”เจรจา “สี จิ้นผิง” ตัวไหนน่าซื้อเติมพอร์ต เช็กเลย?

ตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาซื้อขายคึกคัก ! โดยสัปดาห์ที่ผ่านดัชนีทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน ที่ระดับ 1,319.76 จุด ในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 11.56 จุด หรือ 0.89% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 44,292.69 ล้านบาท เป็นผลมาจากนักลงทุนคลายความกังวล ต่อประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐลดท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนลง
นอกจากนี้ตลาดตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจในประเทศทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยเปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสในวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา และคลอดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่ งจะเปิดให้ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 29 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันการประกาศงบไตรมาส 3/68 กลุ่มแบงก์ออกมาดีกว่าคาด และนักลงทุนเข้าเก็งกำไรหุ้น กลุ่มเทคโนโลยี จากการคาดการณ์เรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/2568 รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคา น้ามันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นหนุนดัชนีหุ้นไทยเขียวสดใส
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์จะเป็นอย่างไร ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตามสำคัญมีอะไรบ้าง หุ้นตัวไหนควรเก็บเข้ามาเติมพอร์ต เพื่อเก็งกำไร และหาผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ในวันนี้ TNN Online พาไปหาคำตอบจากกูรูตลาดทุนกันค่ะ
เริ่มจาก “ชาญชัย พันทาธนากิจ” ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ฉายภาพว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าผันผวน โดยนักลงทุนต้องติดตามใน 5 ประเด็นหลัก คือ 1.การหารือระหว่าง “ทรัมป์” และ “สี จิ้นผิง” ระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปกที่เมืองคย็องจู เกาหลีใต้ ในวันที่ 30ต.ค.นี้ ถ้าไม่มีการเลื่อนประชุมตลาดคาดหวังเชิงบวกบรรลุข้อตกลงทั้ง 2 ประเทศจะหนุนดัชนีปรับตัวขึ้น 2.การประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ตลาดคาดว่าจะปรับลดอกเบี้ยลง 0.25% เนื่องจากเฟดมีความกังวลเรื่องตลาดแรงงานที่เปราะบางมากกว่าเงินเฟ้อ
3. Government Shutdown ของสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะได้ข้อยุติลงเมื่อใด 4 ตัวเลขการส่งออกของไทย Bloomberg Consensus ในเดือนก.ย. ตลาดคาดว่าจะโต 4% yoy จากเดิมในเดือนส.ค.โต5.8% 5.รายงานงบไตรมส 3/68 ของกลุ่มเรียลเซกเตอร์ เช่น HMPRO , SCC, SCGP เป็นต้น
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจจะยุบสภาฯ ก่อนไทม์ไลน์เดิมคือวันที่ 31 ม.ค.69 เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนนั้น แบ่งเป็น 2 กรณีคือ 1. ยุบในช่วงที่พรรคภูมิใจไทยมีกระแสตอบรับจากประชาชนดีจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล และ 2. หากยุบสภาฯ ในช่วงที่มีปัญหาเข้ามาถาโถม จะทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบระยะสั้น และนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องนโยบายการบริหารงานอาจไม่มีความต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการทำงานภายใต้ระบบประชาธิปไตยจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,300 -1,340 จุด
กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 3/68 ออกมาดี หุ้นเด่นสัปดาห์หน้าแนะนำ GFPT ,TRUE , BGRIM และ MTC
ฝั่ง“ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์" AISA, CFTe ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี มองว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ ประเมินแนวต้าน แรกที่ 1,289 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,303 จุด แนวรับแรกที่ 1,260 จุด แนวรับถัดไปที่1,246 จุด โดยแรงหนุนจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ตลาดคาดว่าลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ หนุนสภาพคล่อง
ขณะที่หุ้นไทยอยู่ในโซน Value มี Current Equity Risk Premium ราว 4.8% > AVG +1.5 S.D. และสัญญาณกำไรตลาดดีขึ้น จากแรงส่งกลุ่มธนาคาร น่าจะค่อยๆ เติมเพิ่ม นอกจากนี้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของจีน หนุนหุ้นกลุ่มชิ้นส่วน หุ้นปิโตรเคมี
ขณะเดียวกันภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในอย่างต่อเนื่อง หุ้นเด่น มอง หุ้นอิงดอกเบี้ยขาลง (ไฟฟ้า เช่าซื้อ) หุ้นเทคฯ (ชิ้นส่วนฯ สื่อสาร) หุ้น Anti-involution (โรงกลั่น ปิโตรเคมี) และหุ้น Domestic ที่ยัง Deep Value (ค้าปลีก ท่องเที่ยว)
ปัจจัยในประเทศ-ต่างประเทศที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย
- 27 ต.ค. ยอดส่งออก ต.ค. 25 ตลาดคาด +6.9%y-y vs prev. +5.8%y-y
- 27-28 ต.ค. ติดตามประชุม ครม. และ ครม.เศรษฐกิจ สัปดาห์นี้ คาดอนุมัตินโยบายพลังงาน เนตคนละครึ่ง และอาจเริ่มเห็นแนวทางนโยบายด่วนอื่น อาทิ การแก้หนี้
- 27-31 ต.ค. รายงานกำไรหุ้น Real Sector โค้งแรก GLOBAL, HMPRO, SCGP, SCC, PTTEP
- ติดตามความพยายามในการผ่านร่างงบประมาณประจำปีสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหา Government Shutdown ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ 1 ต.ค.
- APEC Meeting : 30 ต.ค. การประชุมระหว่าง ปธน.Trump และ ปธน. Xi Jinping
- 30 ต.ค. ติดตามการประชุม FOMC ตลาดคาดปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่กรอบ 3.75% - 4.0%
- 30 ต.ค. การประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 2.0%
- 30 ต.ค. การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือ BoJ ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 0.5%
- 31 ต.ค. ติดตามรายงาน PMI ภาคผลิตจีน ต.ค. คาดอยู่ที่ระดับ 49.8 จุด เท่าเดือนก่อน
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ
• ADVANC (TP25F-350): หุ้น High Yield เด่นรอบ Fed ลดดอกเบี้ย+ กำไร3Q25F เด่น +33%y-y, +2%q-q
• MTC ( TP25F-58): แรงส่งคาด Fed ลดดอกเบี้ย + คาดกำไร 3Q25F เด่น 14%y-y, 3 %q-q
• GULF (TP25F-59): จิตวิทยาบวก Fed ลดดอกเบี้ย + โอกาส Re-rate ภาพ AI โลกเร่ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
