คณะที่ปรึกษาฉลุย FDA อนุมัติ “วัคซีนโควิด” ชี้มีประสิทธิภาพมากกว่าความเสี่ยง
คณะที่ปรึกษาฉลุย FDA - บีบีซี รายงานวันที่ 11 ธ.ค. ถึงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและยาชีววัตถุ (วีอาร์บีพีเอซี) ของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) เห็นชอบให้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท ไฟเซอร์ ผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของประเทศ ที่พัฒนากับบริษัท ไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสมาชิก 23 คนของที่ปรึกษาด้านวัคซีนร่วมหารือและสรุปว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพที่เป็นประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงต่อผู้ได้รับการฉีดวัคซีน แม้มีรายงานว่าพบผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค อย่างน้อย 2 คนในสหราชอาณาจักรเกิดอาการแพ้วัคซีนตัวนี้ก็ตาม
ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคผ่านการอนุมัติใช้งานในสหราชอาณาจักร แคนาดา บาห์เรน และซาอุดีอาระเบีย ส่วนที่สหรัฐยังต้องรอการอนุมัติจากผู้อำนวยการด้านวัคซีนของเอฟดีเอ ซึ่งนายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ ระบุคาดว่าเอฟดีเอจะผ่านความเห็นชอบในอีกไม่กี่วัน และน่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้มีความเสี่ยงภายในสัปดาห์หน้า
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดวิกตกว่าโรคโควิด-19 ในสหรัฐจะยังวิกฤตอีกนาน ภายหลังตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ยังสูงต่อเนื่อง ในช่วง 24 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มีผู้เสียชีวิต 2,974 ราย
แม้จะลดลงจากจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3,124 รายเมื่อวันพุธที่ 9 ธ.ค. ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 299,692 ราย ขณะที่ผู้ป่วยใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบอีก 217,779 คน ถือเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 2 แสนคนต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 16.03 ล้านคน
รายงานจากการประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและยาชีววัตถุระบุในแถลงการณ์ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคของวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคหลายพันหน้าอย่างละเอียด
ครอบคลุมทั้งข้อมูลการทดลองทางคลินิก ข้อมูลทั่วไปในกระบวนพัฒนาวัคซีนในห้องปฏิบัติการ ข้อมูลการผลิตวัคซีน และขั้นตอนการผลิตวัคซีน พร้อมย้ำว่าเอฟดีเอและกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ปกป้องสุขภาพของประชาชนด้วยการรับรองความปลอดภัยในประสิทธิผลของยาและวัคซีน ซึ่งหลังจากพิจารณาแล้วพบว่าวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคมีประโยชน์ต่อผู้ฉีดมากกว่าความเสี่ยง
ด้านโครงการโอเปอเรชั่นวาร์ปสปีดของรัฐบาลระบุว่า สามารถแจกจ่ายวัคซีนได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเอฟดีเออนุมัติการใช้งาน ขณะที่ไฟเซอร์สามารถเตรียมความพร้อมใช้งานวัคซีนจำนวน 6.4 ล้านโดสสำหรับล็อกแรกที่จะใช้ในสหรัฐในช่วงปลายเดือนธ.ค. ซึ่งจะเพียงพอต่อผู้เข้ารับการฉีดราว 3 ล้านคน เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคต้องใช้จำนวน 2 โดสต่อคน
เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุว่าบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจำนวน 21 ล้านคนทั่วประเทศ รวมทั้งผู้สูงวัยในบ้านพักคนชราอีกกว่า 3 ล้านคน จะเป็นบุคคลกลุ่มแรกที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนคนที่ไม่มีความเสี่ยงสูงคาดว่าจะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: