นิวยอร์กเอาจริง เตรียมปลดบุคลากรทางการแพทย์ไม่ฉีดวัคซีนโควิด
วันนี้ ( 28 ก.ย. 64 )นายบิลล์ เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ แถลงข่าวว่า โรงพยาบาลหลายแห่งในนิวยอร์ก ไม่เห็นผลกระทบมากนักจากคำสั่งนี้ แต่ว่าเขามีความกังวลเกี่ยวกับพื้นที่อื่น ๆ ของรัฐ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
วันจันทร์ คือวันสุดท้ายของกำหนดเส้นตายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบุคลากรการแพทย์รัฐนิวยอร์กที่ทำงานตามโรงพยาบาลและบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุในรัฐนี้ ส่วนพยาบาลที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุตามบ้านจะมีเวลาจนถึงวันที่ 7 ตุลาคมในการเข้ารับวัคซีน ภายใต้มาตรการดังกล่าว แพทย์พยาบาลที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนโดยไม่มีคำรับรองจากแพทย์ให้ยกเว้นการฉีดวัคซีนโควิด จะต้องออกจากงานและจะไม่ได้รับสวัสดิการชดเชยการว่างงานด้วย
ด้านผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แคธี โฮคูล กล่าวว่า ได้มีคำสั่งให้ เนชันแนลการ์ด หรือ กองกำลังสำรองของรัฐ ที่ได้รับการฝึกฝนทางการแพทย์ ให้เตรียมพร้อมในกรณีที่เกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ หากว่ามีแพทย์พยาบาลจำนวนมากปฏิเสธการฉีดวัคซีนโควิดหลังกำหนดเส้นตายนี้ผ่านไปแล้ว
สำนักงานผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กระบุว่า จนถึงวันที่ 22 กันยายน มีบุคลากรทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วรัฐนิวยอร์ก ฉีดวัคซีนโควิดครบแล้วร้อยละ 84 การผลักดันฉีดวัคซีน มีขึ้นท่ามกลางการต่อสู้กันรุนแรงขึ้นระหว่างผู้นำรัฐบาลของรัฐและรัฐบาลกลาง ที่ต้องการบังคับฉีดวัคซีน เพื่อช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา และเจ้าหน้าที่ที่คัดค้านการบังคับฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่อ้างเหตุผลทางศาสนาสำหรับการปฏิเสธฉีดวัคซีน
ขณะเดียวกัน ขณะที่เทศกาลฮาโลวีนในสหรัฐฯ กำลังจะมาถึงในอีกหนึ่งเดือน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ได้เตือนว่า คนอเมริกันควรหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกับคนจำนวนมากในงานฉลองวันฮาโลวีน เนื่องจากการระบาดที่ยังคงรุนแรงในหลายพื้นที่
แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี กล่าวกับรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ในวันอาทิตย์ว่า เด็ก ๆ น่าจะสามารถเดินเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อเคาะประตูเพื่อนบ้านและขอลูกอมขนมหวานตามธรรมเนียม “ทริกออร์ทรีต” (trick or treat) “หลอกหรือเลี้ยง” ได้ในปีนี้ แต่ไม่ควรเข้าร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีนที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก