ดื่ม ปัสสาวะ เป็นยาอายุวัฒนะ-รักษาโรคได้จริงหรือไม่?
วันนี้ ( 12 พ.ค.65)สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้เผยแพร่ข้อมูล กระแสการดื่ม “ปัสสาวะ” เพื่อรักษาโรค กำลังเป็นที่พูดถึง หลายคนอ้างแล้วบอกต่อ ๆ กันมาว่า น้ำปัสสาวะเป็นน้ำพระพุทธเจ้า เหมือนเป็นยาอายุวัฒนะ สามารถบำบัดรักษาโรคได้ ไม่ว่าจะนำมารักษาโรคงูสวัด ทำให้แผลสมานกันเร็ว รักษาแผลหนอง พุพอง รักษาอาการตาแดง และสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย เรื่องจริงจะเป็นเช่นไร มาติดตามกันเถอะ
ปัสสาวะบำบัด คือ การรักษาหรือบำบัดโรคด้วยปัสสาวะ ทั้งด้วยวิธีการดื่มและทาตามร่างกาย
ซึ่งรู้หรือรู้ไม่ว่าน้ำปัสสาวะจัดเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมา ในน้ำปัสสาวะประกอบด้วย น้ำ และเกลือแร่ (พบในปริมาณน้อย) ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของเสียจากการย่อยโปรตีน เช่น ยูเรีย แอมโมเนีย คีโตน ครีตินีน และอาจปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรืออาจมีไข่พยาธิปนเปื้อนอยู่ด้วย
ดังนั้น หากนำน้ำปัสสาวะมาดื่ม ทา หรือหยอดตานั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะนอกจากจะไม่หายจากโรคเดิมแล้ว อาจทำให้อาการหนักมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้อาจมีความเสี่ยงและอาการอื่น ๆ ตามมาเช่น
1. เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
2. อาจได้รับสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย
3. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต โรคตับ โรคหัวใจ อาจอาการแย่ลงได้
4. คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
หากมีข้อสงสัยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรจะดีกว่าการดื่มหรือการนำปัสสาวะมาทา
ข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ภาพจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา/AFP