รีเซต

2ยักษ์ดึงสเปรดปิโตร PTTGC-IVL-SCCมา

2ยักษ์ดึงสเปรดปิโตร PTTGC-IVL-SCCมา
ทันหุ้น
6 พฤศจิกายน 2563 ( 08:15 )
249
2ยักษ์ดึงสเปรดปิโตร PTTGC-IVL-SCCมา

ทันหุ้น – สู้โควิด – กูรูประเมินสหรัฐได้ “ไบเดน” คลายกดดัน“จีน” ดึงความต้องการ-สเปรดปิโตรเคมีพุ่งเข้าทาง PTT, PTTGC, IVL, และ SCC ชี้ PTTGC SCC มีปัจจัยหนุนโดดเด่น ย้ำถึงรอบหุ้นใหญ่รอเงินต่างชาติ STGT – BAM เข้าคำนวณ MSCI - STE50

 

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์หุ้นพลังงาน-กลุ่มปิโตรเคมี กำลังดีขึ้น โดยมีปัจจัยทางจิตวิทยาจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ นายโจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดน จูเนียร์ หรือ “โจ ไบเดน” มีคะแนนเสียงสูงกว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จึงมีความคาดหวังถึงมาตรการทางการคลังขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19  ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, สวัสดิการสุขภาพ, และการลงทุนพัฒนาด้านพลังงานสะอาด

 

ประกอบกับการที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ทั้งปี 2563 ของจีนจะขยายตัว 1.9% ซึ่งน่าจะเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่แห่งเดียวที่มีตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัวในปีนี้ และจะสามารถขยายตัวได้ถึง 26.8% ในปี 2564

2 ประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread) ค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

 

@ เก็งกำไร SCC-PTTGC-IVL

 

ทั้งนี้แนะนำเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี PTT, PTTGC, IVL, และ SCC แม้ว่าระยะสั้นผลการดำเนินงานจะยังไม่ดีมากนัก แต่ถือเป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว และเริ่มให้ความสำคัญกับแผนการเติบโตที่ชัดเจนในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า

 

ทั้งนี้ SCC ฝ่ายวิเคราะห์ให้ความสำคัญต่อโครงการ LSP ในเวียดนามซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตของธุรกิจปิโตรเคมีได้ถึง 70% รวมถึงการเติบโตของธุรกิจ Packaging ผ่าน SCGP จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 430 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4.05%, สำหรับ PTTGC จะได้ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นในปี 2564 จากโครงการ Olefin Reconfiguration Project : ORP จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 44 บาทคาดอัตรการจ่ายเงินปันผลที่ 2.4% และแนะนำ “ซื้อ” IVL ราคาเหมาะสม 27 บาท

 

@ ช้อปหุ้นขนาดใหญ่

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุหากเม็ดเงินจากต่างชาติจะโยกเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็จะมุ่งเน้นไปที่หุ้นขนาดใหญ่ใน STE50 และ SET100 ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะเริ่มเข้าสะสมหุ้นขนาดใหญ่ ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว อาทิ SCC เนื่องจาก Spread ของ High Density Polyethylene : HDPE มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้ที่แข็งแกร่งจากจีน แม้ว่ายอดขายปูนซีเมนต์ยังคงชะลอตัวตามปริมาณการก่อนสร้างในประเทศก็ตาม

 

STGT ซึ่งได้รับอานิสงส์โดยตรงจากวิกฤติโควิด-19 อีกทั้งยังมีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Standard Index ในรอบถัดไปอีกด้วย, และ BAM ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันยังไม่ตอบสนองผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ที่จะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งยัง มีโอกาสเข้าคำนวณใน STE50 และ SET100 ในรอบถัดไปอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง