รีเซต

จับตา3ลุ่มน้ำ! ชลประทานโคราชสั่งเตรียมรับมือ อ่างลำพระเพลิงเกิน 80 % ต้องเฝ้าระวังสูง

จับตา3ลุ่มน้ำ! ชลประทานโคราชสั่งเตรียมรับมือ อ่างลำพระเพลิงเกิน 80 % ต้องเฝ้าระวังสูง
ข่าวสด
11 กันยายน 2564 ( 17:43 )
46
จับตา3ลุ่มน้ำ! ชลประทานโคราชสั่งเตรียมรับมือ อ่างลำพระเพลิงเกิน 80 % ต้องเฝ้าระวังสูง

 

โคราช ฝนมาไว ชลประทานโคราช สั่งจับตา 3 ลุ่มน้ำ มวลน้ำสะสมต่อเนื่องเตรียมรับมือ ขณะที่เขาใหญ่ยังไม่มีสัญญาณวิกฤติ อ่างลำตะคองยังรับได้ แต่อ่างลำพระเพลิงเกิน 80 % ต้องเฝ้าระวังสูง

 

 

วันที่ 11 ก.ย. 2564 นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผอ.โครงการชลประทานนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.นครราชสีมา ว่า 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 23 อ่างเก็บน้ำขนาดกลางของจังหวัดฯปัจจุบั มีปริมาณน้ำภาพรวมอยู่ประมาณ 71.40 % ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งหมด ซึ่งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำจุเกิน 80% แล้ว มี 1 แห่ง ได้แก่

 

 

อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ที่ 133 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 86.10 % ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่ง มีเกินความจุกักเก็บอยู่ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบะอีแตน อ่างเก็บน้ำลำเชียงสา อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง อ.วังน้ำเขียว , อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อ.โนนไทย , อ่างเก็บน้ำหนองกก อ.พระทองคำ และอ่างเก็บน้ำห้วยเพลียก อ.ครบุรี

 

 

 

 

ซึ่งปีที่แล้ว ฝนจะตกฝั่ง อ.วังน้ำเขียว แล้วมวลน้ำไหลไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะลงอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง แต่ในปีนี้จะเห็นว่ามีฝนมาเร็ว และจะตกสม่ำเสมอต่อเนื่องที่ อ.วังน้ำเขียว อุทยานแห่งชาติทับลาน จึงมีมวลน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำมูลมลค่อนข้างมาก ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ปริมาณน้ำยังอยู่ที่ 225 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 71.55 % ยังไม่มีสภาวะผิดปกติเร่งด่วนอะไร

 

 

ขณะที่อ.ด่านขุนทด อ.เทพารักษ์ จะพบว่ามีฝนตกสม่ำเสมอมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลลงมายังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างจึงต้องเร่งระบายน้ำออกด้านท้ายอ่างฯ แถว อ.โนนสูง อ.โนนไทย ขณะนี้มีลุ่มน้ำที่จะต้องเฝ้าระวัง คือลุ่มน้ำลำเชียงไกร ลุ่มน้ำลำพระเพลิง และลุ่มน้ำมูลตอนบน แนวโน้มคาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะแต่ละปีฝนเคยมาในช่วงปลายเดือนก.ย.หรือต้นเดือนต.ค.แต่ปีนี้ฝนมาล่วงหน้า 1 เดือนทำให้มีมวลน้ำสะสมและจะเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่อง จากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุที่ทำให้มีฝนตกลงมาในพื้นที่

 

 

 

 

สำหรับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำอยู่กว่า 86 % ขณะนี้ได้ระบายน้ำส่วนหนึ่งออกลงลำธรรมชาติซึ่งจะไปสะสมรวมกันกับน้ำฝนที่ตกลงในลุ่มน้ำลำพระเพลิงและลำมูลบน แล้วมวลน้ำจะไหลไปรวมกันที่ อ.โชคชัย อ.เฉลิมพระเกียรติ ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องติดตามการแจ้งข่าวสถานการณ์ หรือการแจ้งเตือนจากทางอำเภอ ท้องถิ่น หรือจากทาง ปภ.อย่างใกล้ชิดด้วย แต่มวลน้ำก่อนนี้กว่าจะไหลไปลงลำน้ำมูลในพื้นที่ อ.พิมาย ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้นมวลน้ำจำนวนมากที่เอ่อสูงหน้าเขื่อนพิมาย จะเป็นมวลน้ำจากฝนตกสะสมในพื้นที่ไหลลงลำน้ำมูล ซึ่งยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไม่ได้ติดกับลำน้ำ ทั้งใน อ.พิมาย อ.ประทาย และในพื้นที่โซนทิศเหนือของจังหวัด ยังคงขาดแคลนน้ำจากปัญหาฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือนแล้ว

 

 

 

 

ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะคองปัจจุบันยังสามารถรองรับน้ำได้อีก แต่ฤดูฝนเพิ่งจะเริ่มต้นไม่นาน คาดว่าต่อจากนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องมาอีกทำให้มีมวลน้ำฝนสะสมจำนวนมากบนพื้นที่ต้นน้ำ อย่างเช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรืออุทยานแห่งชาติทับลาน และเมื่อดินอิ่มตัวก็จะเกิดเป็นมวลน้ำไหลหลากหรือดินถล่มลงมาได้ ดังนั้นแม้ว่าตอนนี้เครื่องตรวจวัดระดับน้ำจะยังไม่แจ้งเตือนสัญญาณวิกฤติ

 

 

 

 

แต่ที่ราบเชิงเขาหรือพื้นที่ตามเส้นทางไหลของลำน้ำที่เคยประสบน้ำท่วมฉับพลัน จะต้องติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนภัยไว้ด้วย ให้เตรียมพร้อมรับมือ ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง เพื่อลดวามสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าฝนนี้ สรุปคือ พื้นที่สูงบนภูเขา จะมีน้ำมากเพราะฝนตกจนอิ่มตัว แล้วไหลลงลำธรรมชาติ หรือลงอ่างเก็บน้ำ แต่พื้นที่บริเวณปลายลำน้ำหรือท้ายน้ำ ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอยู่ในขณะนี้ ” นายกิติกุล กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง