ครม.เศรษฐกิจนัดแรก หาทางออกวิกฤตเศรษฐกิจไทยถดถอย
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม. เศรษฐกิจ) ครั้งแรก เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้านและเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
เศรษฐกิจไทยตกต่ำต่อเนื่องยาวนาน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่มีตัวเลขต่ำกว่าการประมาณการอย่างมากและไม่ดีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะยังไม่ถือว่าเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กำลังซื้ออ่อนตัวโดยเฉพาะในกลุ่มฐานราก รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาเชิงโครงสร้างอื่นๆ เช่น สังคมสูงวัย ความสามารถในการแข่งขันลดลง หนี้ครัวเรือนและ NPLs
รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำแนวทางแก้ไขผ่านการเร่งมาตรการระยะสั้นที่ทำได้ทันที เช่น การเร่งเบิกจ่ายภาครัฐ กระตุ้นกำลังซื้อ และกระตุ้นการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อปรับรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย
GDP ไทยต่ำกว่าเพื่อนบ้าน สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรายงานว่า GDP ของไทยลดลงต่อเนื่องมากว่า 10-15 ปี โดยปี 2566 อยู่ที่ 1.9% และไตรมาสแรกของปี 2567 ลดลงเหลือ 1.5% ต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเติบโตได้ 3.5% ขึ้นไป ขณะที่เพื่อนบ้านและประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่มี GDP สูงกว่าไทย สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่สั่งสมมานาน
เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน
ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจเห็นพ้องกันว่า จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ในช่วงนี้ไปจนถึงปลายปี นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งออกแบบมาตรการช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยให้ สศช. และ สศค. เป็นเลขานุการร่วมขับเคลื่อนประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ
รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
การประชุมครม.เศรษฐกิจครั้งแรกนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรังมานาน โดยนายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นทั้งมาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและลงทุนในระยะสั้น พร้อมกับการเร่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาวเพื่ออนาคตของประเทศ