'สิงโต-เสือ' ในสวนสัตว์แห่งชาติสหรัฐฯ ส่อแววติด 'ไวรัสโคโรนา'
วอชิงตัน, 18 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) สวนสัตว์แห่งชาติสมิธโซเนียน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าสิงโตและเสือทั้งหมดในสวนสัตว์ มีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาที่สันนิษฐานว่าเป็นบวก (presumptive positive)
สวนสัตว์ฯ ระบุว่ามีการเก็บและทดสอบตัวอย่างอุจจาระจากสิงโตแอฟริกัน 6 ตัว เสือสุมาตรา 1 ตัว และเสืออามูร์ 2 ตัว ซึ่งพบผลที่สันนิษฐานว่าเป็นบวก โดยคาดว่าผลการทดสอบขั้นสุดท้ายจะออกมาภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้อย่างไรก็ดี ไม่มีสัตว์ชนิดอื่นๆ แสดงสัญญาณการติดเชื้อ หลังจากสิงโตและเสือหลายตัวมีอาการอยากอาหารลดลง ไอ จาม และเซื่องซึมในสัปดาห์ก่อน โดยปัจจุบันสิงโตและเสือทั้งหมดยังคงอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดสวนสัตว์ฯ ระบุว่ามีการจ่ายยาแก้อักเสบและแก้คลื่นไส้เพื่อรักษาอาการไม่สบายตัวและความอยากอาหารลดลง รวมถึงจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียระยะหลังตามการสันนิษฐานของทีมสัตวแพทย์สิงโตและเสือทั้งหมดยังคงสามารถออกมาใช้ชีวิตตามพื้นที่อยู่อาศัยกลางแจ้ง เนื่องจากอาการของพวกมันไม่ถึงเกณฑ์ต้องอยู่แต่พื้นที่อยู่อาศัยในร่มข้างใน และระยะห่างระหว่างสัตว์กับผู้เข้าชมอยู่ในระยะที่ไม่มีความเสี่ยงใดๆปัจจุบันไม่มีหลักฐานบ่งชี้แหล่งที่มาของการติดเชื้อ และสวนสัตว์ฯ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีประวัติใกล้ชิดสิงโตและเสือแล้วขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์และแรงงานจำเป็นในสวนสัตว์ฯ สวมหน้ากากอนามัยในที่ร่มสาธารณะและไม่สาธารณะทุกแห่งของสวนสัตว์ฯ ตามมาตรฐานทั้งนี้ สวนสัตว์ฯ ระบุว่ากระทรวงเกษตรอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-COV-2) กับสัตว์ในสวนสัตว์ ซึ่งผลิตพิเศษโดยโซเอทิส (Zoetis) แล้วการเบิกจ่ายวัคซีนดังกล่าวรอบแรก ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนนี้ จะมุ่งฉีดให้สัตว์ที่ถูกระบุเป็นสัตว์สายพันธุ์เปราะบางในสวนสัตว์ฯ และสถาบันชีววิทยาการอนุรักษ์ (CBI) ในรัฐเวอร์จิเนีย[