AI-AIEโชว์งบปี67กำไรสนั่น ลูกถ้วยไฟฟ้า-ไบโอดีเซลพุ่ง
#AI #AIE #ทันหุ้น – AI อวดงบปี 2567 โกยกำไรที่ 385.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222.25% มีรายได้รวม 9,163.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.59%ยอดขายลูกถ้วยไฟฟ้าโตแรง จากคำสั่งซื้อของกฟผ. และกฟน. พร้อมจ่ายปันผล 0.19 บาท ด้าน AIE โชว์ปี 2567 กำไรสุทธิพุ่ง 500.80% ที่ 241.92 ล้านบาท มีรายได้รวมที่ 8,238.90 ล้านบาท หนุนจากการคุมต้นทุน-บริหารจัดการวัตถุดิบ (น้ำมันปาล์มดิบ) ได้ดี ส่งผลให้อีบิทดาพุ่ง 101.19% เคาะจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น
นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ AI เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทในปี 2567 ที่ 385.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222.25% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 119.53 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมสําหรับปี 2567 ที่ 9,163.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.59% แบ่งเป็นรายได้จากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกถ้วยไฟฟ้าที่ 794.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.21% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 458.45 ล้านบาท เป็นผลมาจากการการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้งานในการขยายเขตระบบไฟฟ้าในส่วนต่างๆ ของประเทศ โดยสินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะขายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และบริษัทในภาคธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้าง
ส่วนรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างที่ 113.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.23% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และรายได้จากการจําหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) น้ำมันพืช และผลผลิตพลอยได้ที่ 8,238.90 ล้านบาท ลดลง 0.22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่เดียวกันคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตรา 0.19 บาทต่อหุ้น วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) 4 มีนาคม 2568 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 3 มีนาคม 2568 วันที่จ่ายปันผล 25 เมษายน 2568
*AIE กำไรโตสนั่น 500%
นางสาวพิมพ์วรรณ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม ที่ 8,238.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.22% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 8,221.11 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 241.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 500.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 40.27 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) ในไตรมาส 4/2567 ที่ 181.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.89% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี EBITDA ที่ 78.13 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 ที่มี EBITDA ที่ 67.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.55% สำหรับปี 2567 บริษัทมี EBITDA ที่ 376.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น101.19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของผลการดำเนินงานของบริษัท เกิดจากราคาขายในไตรมาส 4/2567 มีความผันผวนมากกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้บริษัทสามารถบริหารจัดการวัตถุดิบได้ตามนโยบายที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กำหนดนโยบายโดยเน้นให้ความสำคัญในการบริหารจัดการวัตถุดิบ (น้ำมันปาล์มดิบ) ให้มีอัตราการหมุนเวียนของสินค้าที่เร็วขึ้นและเก็บสต๊อกไว้ระหว่าง 15-25 วัน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท
*เคาะปันผล 0.25 บาท
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตรา 0.25บาทต่อหุ้น วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) 7 มีนาคม 2568 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 6 มีนาคม 2568 วันที่จ่ายปันผล 30 เมษายน 2568
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าปริมาณขายไบโอดีเซลในปี 2568 ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยภาครัฐยังคงสัดส่วนนโยบายผสมน้ำมันไบโอดีเซล B5 ต่อไป และคาดว่าจะปรับสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น B7 ในช่วงไตรมาส 2/2568 เป็นต้น ภายหลังจากสถานการณ์ขาดแคลนน้ำมันปาล์มดิบคลี่คลายลง ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่อาจมีความรุนแรงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการผลิตลง