รีเซต

‘อีลอน มัสก์’ ประกาศหนุนพรรครีพับลิกันในเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ

‘อีลอน มัสก์’ ประกาศหนุนพรรครีพับลิกันในเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ
TNN ช่อง16
8 พฤศจิกายน 2565 ( 13:04 )
53

---ความคิดเห็นซีอีโอดัง---


อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของ Twitter ทวีตข้อความเมื่อคืนวันจันทร์ (7 พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ว่า “สำหรับผู้มีสิทธิ์อิสระ การแบ่งปันอำนาจช่วยจำกัดอำนาจที่มากเกินไปของทั้งสองพรรค ดังนั้น ผมจึงแนะนำให้ไปเลือกสมาชิกสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกัน หากประธานาธิบดีคือเดโมแครต”

 

การแสดงความเห็นครั้งนี้ของมัสก์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดนักสำหรับบรรดาซีอีโอของบริษัทด้านเทคโนโลยี ซึ่งที่ผ่านมาพยายามหลักเลี่ยงการแสดงความเห็นในทางการเมือง ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเอง ยังคงสงวนท่าทีต่อความเคลื่อนไหวนี้ของมัสก์

 

สำนักข่าว Politico รายงานว่า การแสดงจุดยืนทางการเมืองของมัสก์นั้น อาจส่งแรงกระเพื่อมไปถึงสถาบันต่าง ๆ ในวอชิงตัน ซึ่งบรรดานักการเมืองมักคุ้นชินกับการที่ผู้นำภาคธุรกิจรักษาระยะห่างจากการเมือง แต่มัสก์กำลังทำให้เกิดความกังวลว่า เขาจะเป็นตัวเร่งของยุคแห่งการให้ข้อมูลเท็จ จากแนวทางหัวก้าวหน้าและละทิ้งการควบคุมเนื้อหาบนโลกออนไลน์ให้สุดโต่งจนเกินไป

 

มัสก์ยังทวีตข้อความเพิ่มว่า “คนเดโมแครตหรือรีพับลิกันตัวยง ไม่เคยโหวตเลือกอีกฝั่งอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ลงคะแนนอิสระ คือผู้ที่จะตัดสินใจ ว่าใครจะได้คุมสภา”

 

---Twitter กับเกมการเมือง---


ด้านโยเซฟ เกตาชิว ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อและประชาธิปไตย กล่าวว่า ปกติแล้วบรรดาซีอีโอของบริษัทเทคฯ มักเล่นเกมสองฝั่ง ดังนั้นเขาไม่แน่ใจนักว่า แรงจูงใจของมัสก์ต่อเรื่องนี้คืออะไร

 

ขณะที่นักเคลื่อนไหวหัวก้าวหน้าบางกลุ่มเตือนให้เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของมัสก์แล้ว เพราะเขามีอำนาจมากในฐานะเจ้าของคนเดียวของแพลตฟอร์มอันทรงพลัง โดยเฉพาะเมื่อมหาเศรษฐีที่มีอำนาจเช่นนี้ แสดงความเห็นในช่วง 11 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนการเปิดคูหาของการเลือกตั้งที่ตึงเครียดครั้งนี้ ถือเป็นปัญหาใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงหลังการทวีตข้อความแรก มัสก์ชี้แจงว่า เขาก็เหมือนคนอเมริกันคนอื่น ๆ ที่ชอบนโยบายบางอย่างของเดโมแครต และเห็นด้วยกับบางเรื่องของรีพับลิกัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และเขามองว่า หากอำนาจบริหารและนิติบัญญัติครอบครองโดยพรรคเดียว หมายถึงการเสียสมดุลของอำนาจ

 

ทั้งนี้ มัสก์เคยให้คำมั่นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า หากเขาได้เป็นเจ้าของTwitter เขาจะให้บัญชีผู้ใช้ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ซึ่งทำให้บรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์ยกย่องมัสก์ว่า เป็นผู้ปกป้องเสรีภาพในการพูด 


โดยในตอนนั้นทรัมป์กล่าวว่า การแบนบัญชีผู้ใช้ของทรัมป์นั้น เป็นเรื่องแย่ในศีลธรรม และโง่เขลาในทางที่สุดโต่ง ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มัสก์เผยว่า ยังต้องใช้เวลาอีกหลานสัปดาห์กว่าบัญชีต่าง ๆ ที่ถูกแบนจะสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

 

ความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของมัสก์ ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวพาดพิงถึงเขา และ Twitter ระหว่างการหาเสียงในเมืองชิคาโกว่า Twitter คือพื้นที่ในการกระพือคำโกหก 


 

---ไบเดนชี้ เลือกเดโมแครต คือการเลือกข้างประชาธิปไตย---

 

สำหรับการหาเสียงโค้งสุดท้าย ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เลือกปราศรัยที่รัฐแมรีแลนด์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพรรคเดโมแครตมายาวนาน เขาเริ่มการปราศรัยครั้งสุดท้ายที่รัฐแมรีแลนด์ เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ ตรงกับเวลาประมาณ 7 โมงเช้าของวันอังคาร (8 พฤศจิกายน) ตามเวลาในไทย 


โดยวันจันทร์เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในวันอังคาร (8 พฤศจิกายน) ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งจะตรงกับเวลาประมาณช่วงค่ำของวันนี้ตามเวลาในไทย 

 

ไบเดนกล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาโบวี รัฐแมรีแลนด์ โดยเริ่มต้นว่า เขาจำเป็นต้องทำให้เดโมแครตได้ชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอม และขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัครของเดโมแครตในรัฐแมรีแลนด์ ไบเดนย้ำว่า ประชาธิปไตยของสหรัฐฯ กำลังตกอยู่ในอันตราย การไปลงคะแนนเลือกผู้สมัครเดโมแครต คือการเลือกข้างประชาธิปไตย

 

ไบเดนกล่าวเตือนว่า ขณะนี้มีผู้สมัครราว 300 คนทั่วประเทศ ที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ที่เขาสามารถเอาชนะอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของรีพับลิกันมาได้ 


คนเหล่านี้ไม่เพียงพยายามปฏิเสธสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งของคุณ แต่ยังพยายามปฏฺิเสธสิทธิ์ที่คะแนนของพวกคุณที่ได้ลงไป จากการได้รับการนับคะแนนด้วย ไบเดนยังกล่าวหาบรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์ว่า เป็นพวกขี้แพ้ชวนตี 

 

ทั้งนี้ ไบเดนมาช่วยหาเสียงในวันสุดท้ายให้แก่ เวส มัวร์ ผู้สมัครผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์พรรคเดโมแครต ที่ชิงชัยกับ แดน ค็อกซ์ จากรีพับลิกัน เพื่อแทนที่ผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบัน คือ แลร์รี โฮแกน หนึ่งในสมาชิกรีพับลิกันไม่กี่คน ที่กล้าวิจารณ์ทรัมป์ โดยมัวร์จากเดโมแครต มีคะแนนนำค็อกซ์จากรีพับลิกัน เกือบ 30% ในผลสำรวจความนิยมของชาวแมรีแลนด์ 

 

ไบเดนระบุต่อไปว่า การเลือกตั้งกลางเทอมไม่ใช่การลงประชามติ แต่เป็น “การเลือก” ระหว่างวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันอย่างมาก 2 วิสัยทัศน์ของสหรัฐฯ ไบเดนชูความสำเร็จโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดในรัฐบาลของเขา พร้อมกับประณามตัวเลขว่างงานสูงในสมัยของทรัมป์ในช่วงที่ทรัมป์ใกล้สิ้นสุดวาระการเป็นประธานาธิบดี

 

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของคนทั่วไปแล้ว มองว่า การเลือกตั้งกลางเทอม เปรียบเสมือนการลงประชามติว่า ประชาชนคิดอย่างไรกับการทำงานที่ผ่านมาครึ่งเทอม หรือ 2 ปี ของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และผู้สมัครของพรรคฝ่ายตรงข้าม มักจะทำคะแนนได้ดีกว่าผู้สมัครจากพรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนั้นในการเลือกตั้งกลางเทอม


---ทรัมป์จะมีประกาศครั้งสำคัญ 15 พ.ย. นี้---

 

ขณะเดียวกัน อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกัน ปราศรัยครั้งสุดท้าย ที่รัฐโอไฮโอเมื่อคืนนี้ เพียงไม่กี่นาทีหลังไบเดนเพิ่งปราศรัยจบในแมรีแลนด์ ทรัมป์มาช่วยหาเสียงในวันสุดท้ายให้แก่ เจดี แวนซ์ ผู้สมัครวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันรัฐโอไฮโอ

 

แต่สิ่งที่คนจับตามองในการปราศรัยของทรัมป์ครั้งนี้คือ เขาจะประกาศลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ในการปราศรัยครั้งนี้หรือไม่

 

ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีไบเดนและพรรคเดโมแครต ไม่ให้ความสำคัญมากพอ ต่อการแก้ปัญหาคนต่างด้าวผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ และปัญหายาเสพติดที่เข้าสู่สหรัฐฯ ผ่านทางชายแดนเม็กซิโก ทั้ง ๆ ที่ในสมัยที่เขาเป็นประธานาธิบดี เขาทำให้สหรัฐฯ มีชายแดนที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีเช่นกัน โดยระบุว่า เขาจะมีประกาศใหญ่ครั้งสำคัญมาก ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ที่รีสอร์มาร์ อะลาโก ในเมืองปาล์ม บีช รัฐเท็กซัส เพราะตอนนี้เขาไม่ต้องการให้มีอะไรมาดึงดูดความสนใจไปจากความสำคัญของวันเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง   

ภาพ: Reuters 


ข้อมูลอ้างอิง:

12

ข่าวที่เกี่ยวข้อง