รู้จัก ‘พรรคกล้าธรรม’ พรรคการเมืองเนื้อหอม ที่หลาย สส.อยากย้ายเข้า

พรรคกล้าธรรม พรรคการเมืองมาแรงที่หลาย สส.พูดถึงว่าอยากย้ายเข้าในช่วงนี้ แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักพรรคนี้ เพราะเป็นพรรคที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหัวหน้าพรรค และเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคยกชุด 

ก่อนจะมาชื่อพรรคกล้าธรรม 

จริงๆ แล้วก่อนจะชื่อพรรคกล้าธรรม พรรคนี้จดทะเบียนในชื่อพรรคเศรษฐกิจไทยมาก่อนในปี 2563 ก่อนที่ในปี 2565 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และ ไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร เขต 1 ซึ่งโดนขับออกจาก พรรคพลังประชารัฐ ประกาศว่ากลุ่ม ส.ส. ทั้ง 21 คนจะย้ายเข้าไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทยเพราะแนวทางเข้ากันได้

ซึ่งในปีเดียวกันนั้น พรรคยังมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งก็มีมติเลือกร้อยเอกธรรมนัสเป็นหัวหน้าพรรค และไผ่ ลิกค์เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แต่ภายในไม่กี่เดือนร้อยเอกธรรมนัสก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารใหม่

ในปี 2566 ในการประชุมใหญ่ของพรรค ได้มีการยกเครื่อง เปลี่ยนชื่อพรรคเป็น‘พรรคกล้าธรรม’  เปลี่ยนตราสัญลักษณ์พรรค นโยบายพรรค คำขวัญและอุดมการณ์พรรค ก่อนที่ในปี 2567 จะเลือกนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ และเธอยังถูกเสนอถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แทนร้อยเอกธรรมนัสในรัฐมนตรีแพทองธารด้วย

ลาขาดจากพลังประชารัฐ การย้ายมากล้าธรรมครั้งที่ 2 ของ รอ.ธรรมนัส

แต่แล้วหลังจากลาออกจากพรรคไป ร้อยเอกธรรมนัส และสส.ในกลุ่มของเขาก็กลับมาพรรคกล้าธรรมอีกครั้งในเดือนธันวาคม ปี 2567 หลังประกาศแยกทางกับพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ และถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐครั้งที่ 2 ซึ่งก็มี สส.คนอื่นๆ ที่ถูกขับออกจากทั้งพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติมารวมกับกล้าธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ 

และแม้ในนามพรรคจะไม่ได้ส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งปี 2566 แต่ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรคครั้งแรกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง ในช่วงเดือนเมษายน 2568 ซึ่งทางพรรคได้ส่ง ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ลงสมัครรับเลือกตั้ง

ทำงานอย่างไม่แบ่งฝักฝ่าย จนตก สส.อื่นเข้าพรรคได้

แต่ถ้าถามว่า พรรคสุดฮอตนี้ อุดมการณ์ อย่างไรนั้น คงยังไม่แน่ชัด เพราะในเว็ปไซต์ของ กกต. พรรคยังไม่มีคำประกาศอุดมกาณ์ แต่จากเฟซบุ๊กทางการของพรรคนั้น มีการพูดถึงพรรคว่า พรรคกล้าธรรม ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

และถ้าดูจากการสัมภาษณ์ และการโพสต์ของ สส.ที่ประกาศอยากเข้าพรรคนี้ในช่วงนี้ อย่าง สส.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ จากไทยสร้างไทย ก็จะเห็นการพูดถึงพรรคว่า ทำงานถึงลูกถึงคน น้ำใจกว้างขวาง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ที่รับถ่ายทอดมาจาก หัวหน้าพรรค-ประธานที่ปรึกษา 

“พรรคกล้าธรรม ก็คงเป็น ”พันธุกรรม-บุคลิก“ การทำงานถึงลูกถึงคน น้ำใจกว้างขวาง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ที่รับถ่ายทอดมาจาก หัวหน้าพรรค-ประธานที่ปรึกษา ผสมผสานกันเป็น “ตัวตน“ ที่ “แตกต่าง-ชัดเจน” ยากจะเลียนแบบ” ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลทำให้ สส.อนุดิษฐ์ และ สส.การุณ โหสกุล โดนตกเข้าอย่างจัง และพร้อมจะย้ายเข้าไปเป็นสมาชิกพรรค

นอกจากนี้ สส.กฤษดิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี เขต 6 จากพรรคประชาชน ที่ประกาศขอยุติบทบาทกับพรรค และอยากย้ายไปกล้าธรรม ยังให้เหตุผลว่า ได้รับการตอบรับจาก ร.อ.ธรรมนัส ในการช่วยแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมาถึง 2 ครั้ง ทำให้อยากร่วมงานด้วย

ต้องติดตามต่อว่า พรรคที่หัวหน้าพรรคยอมรับเองว่า ‘เนื้อหอม’ นี้ จะคงความฮอต และดึง สส.เข้าไปร่วมได้อีกมากแค่ไหน เพราะหากมากกว่า 10 คน หรือมากถึง 35 คน อย่างที่ สส.ไผ่ ลิกค์ เลขาธิการของพรรคพูด ก็อาจทำให้พรรคกล้าธรรม กลายเป็นพรรคที่มีสัดส่วนสส.มากเป็นอันดับ 4 แซง รวมไทยสร้างชาติที่ปัจจุบันมี สส.ในสภา 36 คนซึ่งก็อาจมีผลกับเรื่องของโควต้า ที่นั่งรัฐมนตรีได้ด้วย