รีเซต

ตะลึง!ปู่สิงคโปร์อยู่ป่ามา 30 ปี-เผยสาเหตุ รัฐบาลเพิ่งรู้

ตะลึง!ปู่สิงคโปร์อยู่ป่ามา 30 ปี-เผยสาเหตุ รัฐบาลเพิ่งรู้
ข่าวสด
20 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:37 )
57
ตะลึง!ปู่สิงคโปร์อยู่ป่ามา 30 ปี-เผยสาเหตุ รัฐบาลเพิ่งรู้

ตะลึง!ปู่สิงคโปร์อยู่ป่า30ปี-วันที่ 20 ก.พ.เว็บไซต์บีบีซีรายงานเปิดชีวิตของนายโอห์ โก เซง ชาวสิงคโปร์วัย 79 ปี อาศัยอยู่ในป่ามา 30 ปี แม้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเป็นเมืองมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แถมคุณปู่ยังมีร่ายกายที่แข็งแรงกระฉับเฉงดีกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันอีกต่างหาก เรื่องราวการอาศัยอยู่ในป่าของปู่โอห์กลายเป็นไวรัลในสิงคโปร์ หลายคนถึงขั้นตกตะลึง

 

นายโอห์ โก เซ็ง วัย 79 ปีและผักที่ปลูกเอง

 

ความลับแตก เริ่มในวันคริสต์มาสเมื่อปี 2564 เมื่อเจ้าหน้าที่หยุดตรวจนายโอห์ และพบว่านายโอห์ค้าขายโดยไม่มีใบอนุญาต นายโอห์ขายผักกินใบและพริกที่ปลูกเอง หลังจากโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ตกงาน จากเดิมที่ขายดอกไม้ในตลาดหลายแห่ง ตนเองเชื่อว่ามีลูกค้าไม่พอใจ จึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ หลังไม่เห็นด้วยที่ตนขายของราคา 1 ดอลล่าร์สิงคโปร์หรือราว 23 บาท แต่ในจังหวะนั้น เจ้าหน้าที่การกุศลผ่านมาและสังเกตว่า นายโอห์กำลังถูกเจ้าหน้าที่หลายคนสอบถามรวมถึงยึดผักของนายโอห์ด้วย

 

น.ส.วิเวียน ปัน เจ้าหน้าที่การกุศลกล่าวว่า ตนรู้สึกโกรธแทนนายโอห์ และว่า ฉันไม่ต้องการให้นายโอห์ต้องกลับบ้านมือเปล่า แต่ก็เข้าใจ ในแง่ของกฎหมายสิงคโปร์ ไม่สามารถขายสินค้าบนถนนได้

 

น.ส.วิเวียนถ่ายคลิปเรื่องราวที่เกิดขึ้นและโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และในที่สุด กรณีนายโอห์ทำให้นายเหลียง อิง หัว สมาชิกรัฐสภาท้องถิ่นสนใจ จนพบเรื่องราวชวนตะลึงยิ่งกว่าเกี่ยวกับชีวิตนายโอห์ เมื่อรู้ว่านายโอห์อาศัยอยู่ในป่าเป็นเวลา 30 ปีโดยไม่มีใครล่วงรู้

 

นายโอห์เติบโตมากับครอบครัวในย่านซัมไจ เตนกะห์ อย่างไรก็ตาม ในทศวรรษ 1980 หมู่บ้านเหล่านี้ถูกรื้อถอน เพื่อสร้างตึกสูง ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้รับข้อเสนอบ้านหลังใหม่จากรัฐบาล แต่นายโอห์ไม่สามารถมีบ้านของตนเองได้ แม้น้องชายได้อยู่แฟลตของรัฐบาลและได้เชิญนายโอห์ไปอยู่ด้วยกัน แต่ในที่สุดนายโอห์ย้ายออก เพราะไม่ต้องการสร้างความลำบากใจให้ครอบครัว ดังนั้นจึงกลับไปอยู่ป่าติดกับบริเวณบ้านหลังเก่าที่เคยตั้งอยู่และเริ่มใช้เวลาช่วงกลางคืนในเพิงที่สร้างจากไม้ ไม้ไผ่และผ้าใบกันน้ำ

 

บริเวณทางเข้าเพิง จะเห็นเถ้าถ่านบริเวณประตูเกิดจากไฟที่นายโอห์ใช้หุงหาอาหาร กองสิ่งของอยู่ตรงกลางเพิง ด้านหลังของเต็นท์ใช้เป็นที่หลับนอน สวนอยู่ใกล้เต็นท์ นายโอห์ปลูกพืชไว้กินเอง เสื้อผ้าตากเป็นแนวคดเคี้ยวระหว่างต้นไม้และรั้วที่สร้างขึ้นมาล้อมรอบแปลงผัก ป้องกันผู้รุกราน

 

ต้นขนุนสูงลิ่วเหนือเต็นท์ ให้ร่มเงา ทำให้นายโอห์ไม่เคยรู้สึกไม่สบาย แม้ว่าสิงคโปร์มีอากาศร้อนอบอ้าวและความชื้น อีกทั้งความเหงาอ้างว้างก็ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับนายโอห์เช่นกัน นายโอห์ยุ่งอยู่กับการทำสวน แต่นายโอห์ระบุว่า หนู คือส่วนที่แย่ที่สุดของการอยู่ป่า พวกหนูจะหาทางเข้ามาในเพิงและกัดเสื้อผ้าจนเป็นรู

 

นายโอห์ยังรับจ้างทำงานชั่วคราวหลากหลายงาน เมื่อทำไหว บางครั้งใช้จ่ายเงินที่ได้มานั่งเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะบาตัม เกาะเล็กๆในอินโดนีเซีย และได้พบกับน.ส.ตาซิห์ และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน อย่างไรก็ตาม หลังแวะไปที่เกาะบาตัมเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์ นายโอห์จะกลับไปที่ป่า โดยที่ครอบครัวที่สิงคโปร์ และเกาะบาตัม ภรรยาและลูกสาว ซึ่งขณะนี้อายุ 17 ปี ต่างก็ยังไม่รู้ว่า นายโอห์ใช้ชีวิตอย่างไร นายโอห์มักตอบคำถามญาติๆว่า ผมอาศัยอยู่ในสวน

 

กระทั่งสถานการณ์แพร่รระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นายโอห์ไม่สามารถไปเกาะบาตัมเพราะส่วนใหญ่สิงคโปร์ปิดพรมแดนและอนุญาตให้เดินทางสำหรับผู้ที่เต็มใจจ่ายเงินเพื่อกักตัวและมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่นายโอห์ก็ยังส่งเงินไปช่วยครอบครัวจำนวน 500-600 ดอลล่าร์สิงคโปร์หรือราว 11,000-14,000 บาทต่อเดือน

 

ปัญหาคนไร้บ้าน นับว่าหาได้ยากในสิงคโปร์ ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรจัดว่ามีกินมีใช้มากที่สุดชาติหนึ่งในโลก รัฐบาลมีการจัดสรรบ้านให้ประชาชน โดยร้อยละ 80 ของประชากรสิงคโปร์อาศัยอยู่ในบ้านที่ได้รับเงินอุดหนุน สร้างและบริหารจัดการจากคณะกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐ แต่กระนั้นประมาณว่ามีคนไร้บ้านชาวสิงคโปร์ราว 1,000 คน

 

ต่อมาในเดือนก.พ.ปี2565 วันแรกของเทศกาลตรุษจีน ด้วยความช่วยเหลือของสมาชิกสภาท้องถิ่นที่รู้จักนายโอห์จากคลิป ทำให้นายโอห์ได้บ้านหลังใหม่ นายเหลียง สมาชิกสภาท้องถิ่นระบุว่า จะยังคงช่วยนายโอห์ต่อไปรวมถึงกำลังมองหาการให้ความช่วยเหลือทางสังคมระยะยาวและช่วยให้ได้ไปเยี่ยมภรรยาและลูกสาวที่อินโดนีเซียด้วย

 

นายโอห์ได้บ้านหลังใหม่

บ้านใหม่เป็นแฟลต 1 ห้องนอนที่อยู่ร่วมกับชายอีกคน มีขนาดเล็กและถูกตกแต่งบ้างประปราย มีของใช้ เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ กาต้มน้ำและเครื่องทำน้ำร้อนที่ได้รับบริจาค ซึ่งนายโอห์ชื่นชอบเครื่องทำน้ำร้อนเป็นพิเศษ เพราะคุ้นเคยกับการอาบน้ำจากน้ำในสระติดกับเพิงในป่าและรู้สึกว่าน้ำเย็นเกินไป

 

ขณะนี้นายโอห์ทำงานเป็นคนขับรถ รับส่งแรงงานต่างชาติและบางครั้งทำสวน และในวันย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่นับเป็นครั้งแรกที่นายโอห์ได้ฉลองวันตรุษจีนพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวในสิงคโปร์ในรอบกว่า 30 ปี

 

“ผมกินเยอะมาก มีอาหารหลายอย่างที่ผมไม่ได้กินมาหลายปีแล้ว และวิเศษมากที่ผมได้ดูโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า30 ปี ผมสนุกมาก” นายโอห์กล่าว อย่างไรก็ตาม แม้ยังคงคิดถึงชีวิตอิสระในป่า แต่นายโอห์ระบุว่า ตนชอบอาศัยในแฟลตมากกว่า

 

“กระทั่งเดี๋ยวนี้ ผมกลับไปป่าทุกวัน ผมตื่นตี 3 แต่งตัวและออกไปดูแปลงผัก ก่อนเริ่มทำงานในแต่ละวัน”นายโอห์กล่าว

 

...............

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิด: สิงคโปร์ ไม่นับรวมคนฉีด "ซิโนแวค" เป็นผู้ได้รับวัคซีน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง