ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 'โอไมครอน' รายแรก

ซิดนีย์, 27 ธ.ค. (ซินหัว) -- วันจันทร์ (27 ธ.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ (NSW) ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในออสเตรเลีย รายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน รายแรกของประเทศ

ผู้เสียชีวิตข้างต้น เป็นชายวัย 80 ปี จากเขตเวสเทิร์น ซิดนีย์ ซึ่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว และมีโรคประจำตัว โดยเขาเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตรายใหม่ จำนวน 3 ราย ที่นิวเซาธ์เวลส์รายงานพบในวันจันทร์ นอกจากนั้นรัฐนิวเซาธ์เวลส์ยังพบผู้ป่วยเพิ่ม 6,324 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง นับจนถึง 20.00 น. เมื่อคืนวันอาทิตย์ (26 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นนิวเซาธ์เวลส์ยังมียอดผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 520 ราย อยู่ในแผนกผู้ป่วยหนัก 55 ราย ในจำนวนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 17 ราย ขณะที่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. รัฐแห่งนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 261 ราย อยู่ในแผนกผู้ป่วยหนัก 33 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 11 รายเพื่อควบคุมจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น นิวเซาธ์เวลส์กลับมาบังคับใช้กฎการเช็กอินด้วยรหัสคิวอาร์โค้ดในพื้นที่สาธารณะ และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 1 คนต่อ 2 ตารางเมตร ในสถานบริการต่างๆ เช่น ผับ คลับ ร้านอาหาร และคาเฟ่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และแผนการเดินทางอันบ่อยครั้งของประชาชนในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อระบบการตรวจโรคโควิด-19 เนื่องจากหลายรัฐกำหนดให้ต้องมีผลตรวจเป็นลบสำหรับการเดินทางระหว่างรัฐ โดยศูนย์ตรวจโรคโควิด-19 แบบขับผ่านหรือไดรฟ์-ทรูหลายแห่ง มียานพาหนะต่อคิวรอใช้บริการยาวหลายร้อยเมตร ขณะที่ประชาชนต้องใช้เวลารอผลตรวจ 72 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นหน่วยงานรัฐนิวเซาธ์เวลส์ระบุให้ประชาชนเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 แบบพีซีอาร์ (PCR) อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดด้านการเดินทาง ในกรณีที่มีอาการป่วย หรือถูกระบุว่าเป็นผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด หรือมีความเสี่ยงสูงหรือปานกลางต่อการป่วยโรคโควิด-19แมรีหลุยส์ แม็คลอส์ นักระบาดวิทยาชั้นนำ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่มีประชาชนเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 แต่หน่วยงานควรวางแผนรับมือสถานการณ์ให้ดีกว่านี้