KKP จับมือ GSAM เสิร์ฟมุมมองลงทุนในต่างประเทศ

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประกาศเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Goldman Sachs Asset Management ( GSAM ) เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนระดับโลกให้แก่นักลงทุนไทย โดยความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของ KKP และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ GSAM ในการขยายธุรกิจผ่านพันธมิตร โดยมีแนวคิดร่วมกัน “The Power of Two. One Philosophy of Wealth”  หรือ พลังทั้งสองแห่ง หนึ่งปรัชญาแห่งความมั่งคั่ง

ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ KKP และ GSAM จะร่วมกันพัฒนา คำแนะนำด้านการลงทุนผ่านพอร์ตต้นแบบ ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Strategy) ครอบคลุมตราสารทุน ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก นอกจากนี้ ความร่วมมือนี้ยังเปิดโอกาสให้ KKP เข้าถึงมุมมองการลงทุนเชิงลึกระดับโลก อันเป็นจุดแข็งของ GSAM และวางกรอบการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างทีมงานของทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง

นายณฤทธิ์ โกสาลาทิพย์ กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสายงานที่ปรึกษา และบริหารการลงทุนลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นผลักดันให้นักลงทุนไทยลดการกระจุกตัวในสินทรัพย์ในประเทศ และกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางที่สร้างประโยชน์ในระยะยาว และวันนี้เราภูมิใจที่ได้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยความร่วมมือครั้งนี้จะยกระดับบริการของเราให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล และสามารถส่งมอบประสบการณ์การลงทุนระดับโลกให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง

โดยหนึ่งในส่วนสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้คือ การร่วมพัฒนาบริการ Discretionary Portfolio Management (DPM) หรือ บริการบริหารพอร์ตลงทุนซึ่งใช้แนวทางการจัดพอร์ตอย่างมีระบบ ปรับเปลี่ยนสัดส่วนและทางเลือกตามภาวะตลาด เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เหมาะสม ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนในยุคที่เศรษฐกิจและตลาดโลกมีความผันผวนสูง 

สถานการณ์ปัจจุบัน KKP ยังแนะนำให้เพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อเทียบความเสี่ยงกับสินทรัพย์อื่นๆ และแนะนำให้ลงทุนระยะยาว 10 ปีขึ้นไปเพิ่่มรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และการเลือกลงทุนควรกระจายลงทุนที่หลายแหล่งนอกเหนือจากในปะเทศไทย เพราะถ้ามองเฉพาะมูลค่าหุ้นไทยมีสัดส่วนเพียง 0.3% ของตลาดหุ้นโลก จึงควรกระจายไปที่อื่นเพื่อเพิ่มโอกาสผลตอบและกระจายความเสี่ยงด้วย และการลงทุนในทองคำแม้ขณะนี้ราคาทองคำยังปรับขึ้นและได้รับความนิยมสูงขึ้น แต่การลงทุนยังแนะนำลงทุนในสัดส่วน 5-10% ของพอร์ตเท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้สถาการณ์ปัจจุบันคนจะถือเงินสดมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของไทยยังมีแนวโน้มเติบโตสูง สะท้อนจากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการเติบโตของทรัพย์สินภายใต้การบริหาร (AUM) เฉลี่ยเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักที่ระดับ 16% ต่อปี สูงกว่าอยู่สาหกรรมที่เติบโตด้วยตัวเลขหลักเดียว 

โดยล่าสุด AUM อยู่ที่ราว 9 แสนล้านบาท ซึ่งยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก ในลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ครอบครัว และบุุคคล เพราะจำนวนกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งปกติจะมีจำนวนประมาณ 1% ของประชากร (มาตรฐานโลกทั่วไปจะมองไปที่คนที่สินทรัพย์ในพอร์ตตั้งแต่ 1 แสนล้านดอลลาร์หรือราว 3 ล้านบาทขึ้นไป) ทำให้การเติบโตของ AUM ยังอยู่ใน 5 อันดับแรกของอุตสาหกรรม 

นางซาบรีนา แกน  Managing Director, Goldman Sachs Asset Management กล่าวว่า เรามองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจด้านความมั่งคั่งในประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนกำลังมองหาโอกาสการลงทุนในระดับโลกมากขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ซึ่งผสานศักยภาพด้านการลงทุนระดับโลกของ GSAM เข้ากับความเชี่ยวชาญในตลาดภายในประเทศไทยของ KKP จะเปิดโอกาสให้เราร่วมกันนำเสนอทางเลือกการลงทุนที่แตกต่างให้แก่นักลงทุนในประเทศไทย ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ 

ทั้งนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ GSAM จะทำหน้าที่ให้บริการที่ปรึกษาการลงทุน ด้านกลยุทธ์การลงทุนแบบหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Strategy) ให้แก่ KKP เพียงรายเดียวเท่านั้นในประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายยังอยู่ระหว่างการหารือถึงความร่วมมือในด้านอื่นเพิ่มเติมผ่านแพลตฟอร์มของ GSAM รวมถึงการที่ KKP อาจจะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นที่บริหารจัดการโดย GSAM ด้วย เพราะมองว่าธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยยังมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก และมีโอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub) ของภูมิภาคเพิ่มจากฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ถ้าไทยมีการปรับปรุ่งเงื่อนไขการเข้ามาลงทุนของผู้ให้บริการทางการเงินเข้ามาได้สะดวกขึ้นในอนาคต 

ปัจจุบันภูมิทัศน์ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยกาลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น คนรุ่นใหม่เริ่มมีบทบาทในการบริหารความมั่งคั่งของครอบครัว และความสนใจในสินทรัพย์ทางเลือกกำลังเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ประเด็นด้านภาษีของเงินลงทุนในต่างประเทศ และการแข่งขันจากผู้เล่นต่างชาติก็ส่งผลต่อแนวทางการจัดพอร์ตของนักลงทุนไทย ขณะที่ การกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในต่างประเทศยังได้รับความนิยมมากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน จากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้มาถูกจังหวะเวลาเพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยมีทางเลือกมากขึ้น 

ด้าน นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน (CIO Office) บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ในกรณีที่สถานการณ์ปัจจุบันนักลงทุนในระดับโลกมีความเชื่อมั่นต่อดอลลาร์ลดลง ขณะเดียวกันก็มองไปที่เงินหยวนของจีนมากขึ้นนั้น มองว่าจากการได้ร่วมทำงานและแลกเปลี่ยนมุมมองกับ GSAM นั้น ทา' GSAM ยังเชื่อว่าหากดูในระยะกลางและระยะยาวมันมีปัจจัยที่ทำให้นักลงทุุนกังวลต่อความน่าถือของดอลลาร์สหรัฐจริง จากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจ และมูลค่า ( Value) ของดอลลาร์ก็ตึง แต่ในระยะสั้น GSAM ยังมองเป็นกลาง (Normal) 

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐยังสูงอันดับต้นๆ ของโลก และสถานะ Long position ที่นักลงทุนซื้อจำนวนมากๆ ในสกุลเงินในตลาดประเทศกำลังพัฒนานั้น ตอนนี้เริ่มคลี่คลายไปในหลายสกุลเงินมากขึ้น กลายเป็น Short position แล้ว  ถ้ามาดูที่ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์มองว่าเศรษฐกิจไทยปัจจัยพื้นฐานไม่เอื้อ เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลน้อยลงมาก และรายได้จากการท่องเที่ยวก็ไม่มากเกมือนเดิม รวมทั้งการส่งออกก็แย่ลง ดังนั้น จึงมองว่า แม้ดอลลาร์ในระกลางจะอ่อนค่าลง แต่เมื่อเทียบกับเงินบาท เงินบาทก็อาจจะไม่สามารถแข็งค่าได้ ดังนั้น การลงทุนมองว่าควรกระจายการลงทุนไปดอลลาร์ด้วยบางส่วน 

ทั้งนี้ GSAM เป็นหน่วยงานหลักด้านการลงทุนภายในบริษัท Goldman Sachs (NYSE: GS) โดยให้บริการด้านการลงทุนและที่ปรึกษาการลงทุนในทั้งตลาดหลักทรัพย์และตลาด Private Markets แก่สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ปัจจุบันมี AUM รวม 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025)