อียูเริ่มใช้ระบบตรวจคนเข้าเมืองแบบอัตโนมัติ คุมเข้มต่างชาติเข้าเขตเชงเก้น

ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เริ่มทยอยใช้ระบบ “Entry/Exit System” (EES) อย่างเป็นทางการในวันนี้ (12 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับลงทะเบียนข้อมูลผู้เดินทางที่ไม่ใช่พลเมืองของสหภาพยุโรปทุกคน เมื่อเดินทางเข้าสู่หรือออกจากพรมแดนภายนอกของกลุ่ม
ระบบใหม่นี้จะมีการเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ ทั้งการสแกนหนังสือเดินทาง ลายนิ้วมือ และภาพถ่ายใบหน้า เพื่อใช้แทนการประทับตราหนังสือเดินทางแบบเดิม โดยจะทยอยใช้งานเต็มรูปแบบในระยะเวลา 6 เดือน
คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ระบบใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจจับผู้ที่พำนักอยู่เกินกำหนดเวลา ป้องกันการปลอมแปลงเอกลักษณ์บุคคล และยับยั้งการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งกำลังเป็นประเด็นกดดันทางการเมืองในหลายประเทศสมาชิก
มักนุส บรุนเนอร์ กรรมาธิการยุโรปฝ่ายกิจการภายในและการย้ายถิ่น กล่าวในแถลงการณ์ว่า ระบบ Entry/Exit คือกระดูกสันหลังดิจิทัลของกรอบนโยบายใหม่ด้านการย้ายถิ่นและลี้ภัยร่วมของยุโรป
ผู้เดินทางที่ไม่ใช่พลเมืองของสหภาพยุโรปจะต้องลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวของตนเองเมื่อเดินทางเข้ามาในพื้นที่เขตเชงเก้นเป็นครั้งแรก ซึ่งครอบคลุมประเทศสมาชิกอียูทั้งหมด ยกเว้นไอร์แลนด์และไซปรัส แต่รวมถึงไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ และลิกเตนสไตน์
สำหรับการเดินทางครั้งต่อ ๆ ไป ผู้โดยสารจะต้องผ่านเพียงการตรวจยืนยันด้วยระบบจดจำใบหน้าเท่านั้น
สหภาพยุโรปคาดว่าระบบจะพร้อมใช้งานเต็มรูปแบบในวันที่ 10 เมษายน 2026 ซึ่งจะยกเลิกการประทับตราหนังสือเดินทางแบบเดิมทั้งหมด และแทนที่ด้วยระบบบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
บรุนเนอร์เสริมว่า ผู้เดินทางทุกคนจากประเทศที่สามซึ่งเดินทางถึงพรมแดนภายนอกของสหภาพยุโรป จะต้องผ่านการตรวจสอบอัตลักษณ์ การตรวจด้านความมั่นคง และการลงทะเบียนในฐานข้อมูลกลางของสหภาพยุโรป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
