รีเซต

ปวดหลังร้าวลงขา สัญญาณเตือน ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

ปวดหลังร้าวลงขา สัญญาณเตือน ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
TNN ช่อง16
20 พฤศจิกายน 2568 ( 12:07 )
2

 นพ.วรายุทธ แสงสุวรรณศัลยแพทย์กระดูกและข้อ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกสันหลังศูนย์กระดูกและข้อ รพ.วิมุต จะมาแชร์ว่าอาการปวดหลังร้าวลงขาแท้จริงแล้วเกิดจากอะไรและควรดูแลร่างกายแบบไหนไม่ให้เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

รู้จัก "หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท" ตัวการของอาการปวดหลังร้าวลงขา

อาการปวดหลังร้าวลงขาคืออาการปวดแปลบเหมือนไฟช็อตแสบร้อนหรือชาตามแนวขาซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมกระดูกงอกผิดปกติช่องโพรงกระดูกสันหลังตีบหรือกล้ามเนื้อสะโพกกดทับเส้นประสาทแต่สาเหตุที่พบบ่อยและมีความรุนแรงมากที่สุดคือ"ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท"ภาวะนี้เกิดจากความผิดปกติของหมอนรองกระดูกบริเวณสันหลังซึ่งเป็นเนื้อเยื่อคล้ายเบาะคั่นระหว่างกระดูกแต่ละข้อทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกและช่วยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นเมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งจึงอาจไปกดทับเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงขาได้

ชาวออฟฟิศนั่งติดคอม ติดโผกลุ่มเสี่ยง “ทำร้ายหมอนรองกระดูกสันหลัง” ไม่รู้ตัว

แม้อาการปวดหลังร้าวลงขาจะเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัยแต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันบางอย่างอาจสร้างแรงกดและภาระต่อกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกอย่างต่อเนื่องจนเกิดความเสื่อมตามมาโดยกลุ่มเสี่ยงที่มักมีพฤติกรรมลักษณะนี้ได้แก่พนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานผู้ใช้แรงงานหรือผู้ที่ยกของหนักเป็นประจำนักกีฬาที่ต้องใช้แรงมากผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินผู้สูงอายุที่กระดูกสันหลังเริ่มเสื่อมรวมถึงผู้ที่นั่งหลังงอก้มตัวบ่อยๆ

สัญญาณเตือน “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” ปล่อยไว้อาจถึงขั้นพิการ

อาการปวดหลังร้าวลงขาอาจทุเลาได้เพียงชั่วคราวแต่หากปล่อยไว้นานอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาเช่นปวดร้าวลงขาอย่างเฉียบพลันชาหรือแสบร้อนบริเวณขากล้ามเนื้อขาอ่อนแรงยกขาไม่ขึ้นหรือกลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรุนแรงซึ่งหากละเลยอาจนำไปสู่ภาวะพิการหรือเดินไม่ได้ในที่สุด

ทางออกของคนปวดหลังร้าวลงขารักษาอย่างไรให้ตรงจุด

แนวทางการรักษาอาการปวดหลังร้าวลงขาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการในระยะแรกหรือในรายที่อาการไม่รุนแรงมักเริ่มจากการใช้ยาเช่นยาลดการอักเสบยากลุ่มลดปวดเส้นประสาทและยาคลายกล้ามเนื้อร่วมกับการทำกายภาพบำบัดเช่นการดึงหลังยืดกล้ามเนื้อหรือฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 6–8 สัปดาห์แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาเข้าโพรงประสาทสันหลังเพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดบริเวณรากประสาทโดยตรงส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงหรือพบการกดทับเส้นประสาทชัดเจนแพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery) ที่ปลอดภัยเจ็บน้อยและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้น

สร้างเกราะกันปวดกระดูกสันหลังง่าย ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรม

แม้เทคโนโลยีการรักษาจะก้าวหน้าไปมากแต่การป้องกันไม่ให้เกิดโรคตั้งแต่แรกถือเป็นสิ่งที่ควรทำโดยเริ่มจากการคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เพื่อลดแรงกดทับต่อหมอนรองกระดูกหลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานโดยไม่เปลี่ยนท่าและออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องเช่นท่าBridge หรือPlank นอกจากนี้ควรยกของให้ถูกท่าโดย “ย่อเข่า”แทนการ “ก้มหลัง”และเลือกใช้ที่นอนหรือหมอนที่ช่วยพยุงแนวกระดูกได้ดี

นพ.วรายุทธ แสงสุวรรณ อธิบายเพิ่มเติมว่า “สำหรับชาวออฟฟิศซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงควรปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเช่นลุกยืดเส้นทุก 30–60 นาทีปรับท่านั่งให้หลังตรงและวางเท้าราบกับพื้นหมั่นยืดกล้ามเนื้อหลังและขาระหว่างวันหากเริ่มรู้สึกปวดอย่าฝืนควรพักหรือลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถและควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ดีต่อสุขภาพหลังเช่นเก้าอี้ที่รองรับแนวโค้งธรรมชาติของกระดูกสันหลัง (Lumbar Support)”

“หัวใจสำคัญคืออย่ามองว่าอาการปวดหลังร้าวลงขาเป็นเรื่องเล็กหรือคิดว่าเดี๋ยวก็คงหายเองเพราะมันคือสัญญาณเตือนว่าเส้นประสาทกำลังถูกทำร้ายดังนั้นหากมีอาการปวดจึงอยากให้รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆจะได้รักษาได้ง่ายขึ้นลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวล” นพ.วรายุทธ แสงสุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง