รีเซต

ERW บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” หลังเตรียมสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในย่านอโศก

ERW บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” หลังเตรียมสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในย่านอโศก
ทันหุ้น
25 พฤศจิกายน 2568 ( 14:16 )
1

ERW บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” หลังเตรียมสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในย่านอโศก

#ทันหุ้น #SET #ERW บล.กรุงศรี : เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการขยายโรงแรมล่าสุดของ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ERW หลังบริษัทประกาศทำสัญญาเช่าระยะยาว 60 ปี เพื่อพัฒนาโครงการโรงแรมแห่งใหม่ในย่านอโศก ซึ่งนับเป็นโครงการขนาดใหญ่ลำดับที่สองต่อจากโครงการ S26 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2572–2573 

ขณะที่โครงการอโศกคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี พ.ศ. 2573–2574 กลยุทธ์ดังกล่าวช่วยกระจายพอร์ตโรงแรมของบริษัท และคาดว่าจะเป็นแรงหนุนรายได้และกำไรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2573 เป็นต้นไป โดยเราใช้โครงการ S26 ซึ่งมีลักษณะและระดับการลงทุนใกล้เคียงกันเป็นฐานประเมินอัพไซด์เบื้องต้น คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าหุ้นราว 0.20 บาทต่อหุ้น 

จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ ERW โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัว สะท้อนจาก RevPAR ที่ติดลบน้อยลง การขยายพอร์ตโรงแรมที่เสริมการเติบโตระยะยาว และมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายเพียง 13 เท่า PER ปี พ.ศ. 2569 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและกลุ่มอุตสาหกรรม

ERW ทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวที่อโศก
ERW แจ้งทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวกับบริษัท อัครศราภา จำกัด สำหรับที่ดินขนาด 2 ไร่ บริเวณ BTS อโศก เพื่อใช้พัฒนาโครงการใหม่ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2572

ระยะสัญญาเช่า 30+30 ปี : ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2572 – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2592 และมีสิทธิต่ออายุถึง พ.ศ. 2622
มูลค่าธุรกรรมรวม : ประมาณ 9.3 พันล้านบาท ประกอบด้วยสัญญาเช่า 30+30 ปี (ประมาณ 7 พันล้านบาท) และต้นทุนพัฒนาโครงการ (ประมาณ 2 พันล้านบาท)
แหล่งเงินทุน : เงินกู้จากสถาบันการเงินและแหล่งเงินทุนภายในบริษัท

คาดเข้ามาช่วยเสริมพอร์ต Midscale
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกรรมนี้ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ขยายพอร์ตโรงแรมกลุ่ม Economy–Luxury ซึ่งปัจจุบันคิดเป็น 73% ของรายได้รวม โดยโครงการใหม่คาดว่าจะอยู่ในกลุ่ม Midscale (สัดส่วนราว 27% ของรายได้) และมีขนาดใกล้เคียงกับ S26 ซึ่งจะเปิดให้บริการใน พ.ศ. 2572 ส่งผลให้จำนวนห้องพักในกลุ่ม Economy–Luxury เพิ่มเป็น 5,300 ห้อง จากปัจจุบัน 4,500 ห้อง โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการใหม่ทั้งสองแห่ง คือ S26 และ Asoke

บริษัทประเมินว่าโครงการนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านบาท พัฒนาห้องพักมากกว่า 400 ห้อง และคาดเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2573 โดยอ้างอิงจากมูลค่าโครงการ S26 เราคาดว่ารายได้จะคิดเป็น 4–5% ในสองปีแรก และกำไรสุทธิคิดเป็น 1% ในปี พ.ศ. 2574 มูลค่าหุ้นคิดเป็น 0.23 บาทต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนอัพไซด์ที่ใกล้เคียงกันในระยะยาว

ด้านเงินทุน คาดว่าบริษัทจะใช้เงินกู้ประมาณ 70% โดยสถานะการเงินปัจจุบันยังแข็งแรง ทั้งเงินสดในมือ 1 พันล้านบาท, IBD/E 1.1 เท่า, และ D/E 1.7 เท่า ทำให้มีความสามารถกู้เพิ่มได้เพียงพอ และไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท


เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ ERW จากมุมมองต่อการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งคาดว่า RevPAR ใน 4Q พ.ศ. 2568 จะติดลบเพียง 6% ดีขึ้นจาก –10% ในไตรมาสก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังช่วยหนุนความต้องการเข้าพัก 

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนกระจายพอร์ตเพิ่มเติมผ่านโครงการใหม่สองแห่ง ได้แก่ S26 และอโศก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลักดันรายได้และกำไรตั้งแต่ พ.ศ. 2573 เป็นต้นไป ด้านมูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับน่าสนใจ ซื้อขายเพียง 13 เท่า PER ปี พ.ศ. 2569 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและกลุ่มอุตสาหกรรม แม้ว่าความเสี่ยงสำคัญยังคงมาจากดีมานด์ท่องเที่ยวที่อาจชะลอ และความเสี่ยงต้นทุนโครงการใหม่ที่อาจเพิ่มขึ้น

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง