รีเซต

ครอบครัวรับศพ 'เปรม' เหยื่อรับน้องโหด ส่งนิติเวช ตร.แจ้งข้อหา '7รุ่นพี่' ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

ครอบครัวรับศพ 'เปรม' เหยื่อรับน้องโหด ส่งนิติเวช ตร.แจ้งข้อหา '7รุ่นพี่' ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
มติชน
15 มีนาคม 2565 ( 17:18 )
70

ข่าวัวนนี้ 15 มีนาคม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วยนายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี และนางนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี คุณพ่อ และคุณแม่ของ นายพัสยศ ชลภักดี หรือ น้องเปรม นักศึกษาชั้น ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกรุ่นพี่รับน้องโหด

 

ได้นำร่างของลูกชายออกจากห้องพักศพ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ขึ้นรถตู้เดินทางไปยังสถาบันนิติวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด เนื่องจากน้องเปรมผู้เสียชีวิตป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องทำการผ่าพิสูจน์ศพในห้องความดันลบเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย ซึ่งคาดว่าจะทราบผลชันสูตรภายใน 7 วัน

 

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง ท้องที่จุดเกิดเหตุที่มีการจัดกิจกรรมรับน้อง ได้ทำการสอบปากคำผู้ปกครอง พร้อมกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 จำนวน 7 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องเปรมจนเสียชีวิต พร้อมกับสอบปากคำเพื่อนของน้องเปรมที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวส.ปี 1 อีกจำนวน 4 คน เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดี

 

 

 

นายเตอร์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนของน้องเปรม เล่าเหตุการณ์ว่า ในวันเกิดเหตุมีกลุ่มรุ่นพี่จำนวนกว่า 20 คน ได้ประสานงานรุ่นน้องทั้งชาย และหญิง จำนวน 38 คน ไปจัดกิจกรรมรับน้องในป่าที่เกิดเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยรุ่นพี่อ้างว่า เป็นกิจกรรมการรับน้องในรอบปี ซึ่งรุ่นพี่ได้ขับรถยนต์กระบะ 4-5 คันมารับกลุ่มรุ่นน้องไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นไร่อ้อยกลางทุ่งนาโล่งเตียน โดยจุดบริเวณเกิดเหตุมืดมาก เพื่อนของตนหลายคนพากันหวาดกลัว

 

ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มรุ่นพี่ได้สั่งให้กลุ่มรุ่นน้องผู้ชายถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เปลือยกายล่อนจ้อน นอนเรียงแถวกับพื้น หากไม่พอใจก็จะกลุ่มรุ่นพี่ชกที่หน้าท้องหรือถีบหลัง และก็มีการร้องเพลงประจำแผนก ใครร้องเพลงผิดเพี้ยนก็จะถูกทำโทษ ทั้งเตะ ถีบ ชก ตนก็ถูกรุ่นพี่ทำร้ายด้วยการชกที่หน้าท้องหลายครั้ง และถีบด้านหลังจนหัวคะมำ และถูกกลุ่มรุ่นพี่สั่งให้คลานปลาหมอหรือไถร่างไปกับพื้นดินที่แข็ง จนหัวไหล่ และข้อศอกของตนเป็นแผล

 

ส่วนเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ทำร้ายเปรมจนเสียชีวิต ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ ช่วงจังหวะนั้นพวกตน 5 คนยืนห่างกัน เวลารุ่นพี่เดินผ่านทุกคนก็พากันกลัว ซึ่งเปรมก็โดนหนักหลายรอบเช่นเดียวกับตน ทั้งโดนชกหน้าท้อง และหน้าอกไปหลายรอบ ถูกชกด้วยมือเปล่า จนตนถึงกับเอ่ยปากถามเปรมว่า ไหวมั้ย ทำให้มีรุ่นพี่คนหนึ่งชกเข้าที่ลิ้นปี่ของเปรม จนเปรมล้มทรุดลงกองกับพื้น และหมดสติไป แม้ทุกคนจะพยายามช่วยชีวิต และพาส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเปรมก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นพฤติกรรมของพวกรุ่นพี่ที่โหดร้ายเกินไป และตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียเพื่อนจากเหตุการณ์รับน้องครั้งนี้

 

ด้าน พันตำรวจเอก คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง เปิดเผยว่า ขณะนี้นี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเป็นกลุ่มรุ่นพี่มาสอบปากคำทั้งหมด 7 ปาก เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดได้ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่จริง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มรุ่นพี่ทุกคนก็มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยอมรับผิด

 

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้ง 7 คนแล้ว และหากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

 

ส่วนศพของน้องเปรมนั้น ทางพ่อ และแม่ได้ส่งศพน้องไปตรวจพิสูจน์ศพที่สถาบันนิติเวชมิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากน้องที่เสียชีวิตติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การดำเนินการผ่าพิสูจน์ศพจึงต้องผ่าในห้องความดันลบ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อกระจาย ขณะที่การเจรจาพูดคุยหาทางเยียวยาให้กับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้นัดหมายทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต ทางกลุ่มรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรม และทางมหาวิทยาลัยมาพูดคุยเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง