ล่า 3 สาวโรฮิงยา แหกบ้านกักตัว พร้อมนายหน้าพาหนี ผู้ว่า ลั่นเอาผิดหนัก
เจ้าหน้าที่ไล่ล่าตามล่าชาวโรฮิงยา 3 รายที่หนีจากบ้านกักตัวกลับคืนได้ทั้ง 3 คน พร้อมนายหน้าที่พาหลบหนีอีก 1 ผู้ว่าฯ ลั่นดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ม.ค.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าทำการจับกุม หญิง ชาวโรฮิงยา จำนวน 3 ราย และได้ใช้บ้านจุดจับกุมเป็นสถานที่กักตัว แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 รายได้หลบหนีไปในวันที่ 10 ม.ค.64 โดยน่าเชื่อว่าจะมีผู้ที่ให้การช่วยเหลืองัดกุญแจด้านหลังบ้านพักแล้วพาหลบหนีไป ขณะเจ้าหน้าที่ออกไล่ล่าแล้วนั้น
ความคืบหน้าในวันนี้ (11 ม.ค.64) ทางนายกิตติพงษ์ รองเดช นายอำเภอเชียรใหญ่ ได้รายงานถึงนายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวชาวโรฮิงญากลับมาได้ทั้ง 3 คนในพื้นที่ อ.ชะอวด และยังจับกุมนายหน้าชาวโรฮิงญาเป็นผู้ชายที่พาหนีไว้ได้อีก 1 ราย โดยทั้งหมดนั้นถูกจับกุมได้แล้วและถูกคุมตัวไปสอบสวนขยายผลทันทีเนื่องจากถือว่าเป็นกรณีร้ายแรง
ด้านนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การจับกุมที่ อ.เชียรใหญ่ ได้มีการกักขังและดำเนินคดี มีการตรวจเชื้อมีผลเป็นลบ แต่มีการหลบหนีระหว่างกักกัน หลังจากนั้นมีการเชื่อมต่อติดตามผู้ที่หนุนหลังนำทาง และท้ายที่สุดจับกุมมาได้พร้อมทั้งนายหน้าผู้นำพาหลบหนี โดยขณะนี้การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการทันทีต้องดำเนินคดีและตรวจหาโควิดเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังระบุเพิ่มเติมว่านครศรีธรรมราช ได้มีมาตรการตั้งด่านอย่างเข้มข้นในการคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถึง 11 ด่าน และ 7 ด่านใน 11 ด่านเป็นด่านความมั่นคงที่มีมาตรการรองรับอยู่แล้วจะเห็นได้ว่าการผ่านเส้นทางเข้ามาจะสามารถจับกุมได้บ่อยครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า มีข้อมูลรายงานเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาวโรฮิงญา ที่กำลังใช้เส้นทางในพื้นที่เดินทางหลบหนีได้อีก 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน และเด็กอายุ 2 ขวบอีก 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจตัวอย่างเชื้อโควิดอย่างเร่งด่วนแล้วและอยู่ในระหว่างการสอบสวนดำเนินการเพื่อติดตามนายหน้ามาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป