โรฮิงยา300ชีวิตไร้ทางเลือก อยู่เกาะน้ำทะเลท่วม หรือค่ายลี้ภัยพบโควิด
โรฮิงยา300ชีวิตไร้ทางเลือก - วันที่ 17 พ.ค. เอเอฟพี รายงานว่า นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติส่งหนังสือถึงนายเอ.เค.อับดุล โมเมน รมว.การต่างประเทศบังกลาเทศ เพื่อขอให้เคลื่อนย้ายชาวโรฮิงยาจำนวน 308 คน จากเกาะพาชานชาร์ในอ่าวเบงกอล ไปยังค่ายผู้ลี้ภัย เขตค็อกซ์ บาซาร์ เพื่อให้มีสถานะเป็นผู้อพยพที่จะได้รับความช่วยเหลือ
ชาวโรฮิงยากลุ่มนี้ ทางการบังกลาเทศช่วยชีวิตไว้จากการลอยเคว้งในทะเลอ่าวเบงกอลหลายสัปดาห์ เมื่อต้นเดือนพ.ค. แล้วส่งไปอยู่บนเกาะพาชานชาร์ เพื่อกักตัวป้องกันโรคโควิด-19 โดยไม่ระบุเวลา แต่ขณะนี้เลยสองสัปดาห์แล้ว
เกาะดังกล่าวมีปัญหาว่ามีพื้นที่ต่ำถูกน้ำทะเลท่วมโดยเฉพาะในฤดูมรสุม เดือนมิ.ย.-ก.ย. ทุกปี ทำให้ยูเอ็นขอให้บังกลาเทศพาไปเข้าค่ายผู้ลี้ภัยบนแผ่นดินใหญ่
แต่ทางการบังกลาเทศกล่าวว่า จะไม่ส่งชาวโรฮิงยาไปค่าย เนื่องจากกลัวว่าอาจติดโรคโควิด-19 เสี่ยงแพร่โรคแก่ผู้อพยพคนอื่นๆ หลังจากบังกลาเทศพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกแล้วที่ค่ายอพยพเขตค็อกบาซาร์ ท่ามกลางความวิตกกังวล เนื่องจากเป็นค่ายที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่หนาแน่น
หากนับรวมกันแต่ละค่ายในเมืองแห่งนี้ ก็เกือบจะ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่อพยพหนีความรุนแรงมาจากเมียนมา ที่กองทัพกวาดล้างกองกำลังอาระกันและทำให้ชาวบ้านหวาดผวาหนีตาย ตั้งแต่ปี 2560
"เราไม่ต้องการโรฮิงยาอีกแล้ว เราไม่มีสถานที่จะให้อยู่ได้อีก ถ้าประเทศไหนที่ไม่ชอบเกาะพาชานชาร์ ก็ช่วยพาโรฮิงยาไปอยู่ประเทศตัวเองด้วย ไม่ก็ส่งกลับไปประเทศเดิมของพวกเขา ให้พวกเขากลับไปเมียนมา" นายโมเมนกล่าว
รัฐมนตรีบังกลาเทศกล่าวด้วยว่า นานาประเทศควรกดดันให้พม่ารับชาวโรฮิงยากลับไปยังรัฐยะไข่ที่เป็นบ้านเกิดของคนเหล่านี้
++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โควิด: ทั่วโลกตายเกิน3แสน ติดเชื้อ4.5ล้านคน ผุดที่ค่ายโรฮิงยาแล้ว