ศึกแรงงาน "สตาร์บัคส์" หยุดงานไร้กำหนด ส่อวิกฤตช่วงฤดูเทศกาล

สหภาพแรงงาน Starbucks Workers United ซึ่งเป็นตัวแทนของบาริสตาและพนักงานร้านกาแฟในสหรัฐอเมริกา ประกาศผลการลงมติเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยพนักงานส่วนใหญ่เห็นชอบให้มีการนัดหยุดงานแบบเปิดไม่มีกำหนด หากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสัญญาจ้างใหม่ภายในกลางเดือนพฤศจิกายน การเคลื่อนไหวนี้มีแนวโน้มขยายไปมากกว่า 25 เมืองทั่วประเทศ และอาจเพิ่มขอบเขตความรุนแรงหากการเจรจายังไม่คืบหน้า

ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าการเจรจาต่อรองเมื่อปลายปีที่แล้วล้มเหลว แต่ต่างยืนยันว่าพร้อมจะกลับเข้าสู่โต๊ะพูดคุยอีกครั้ง สหภาพแรงงานเปิดเผยว่าได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติ กว่า 1,000 กรณี โดยกล่าวหาว่า Starbucks มีพฤติกรรมละเมิดสิทธิแรงงานในหลายประเด็น ปัจจุบันสหภาพแรงงานเป็นตัวแทนของพนักงานประมาณ 9,500 คน คิดเป็นราวร้อยละ 4 ของพนักงานทั้งหมดในเครือข่ายร้านกาแฟ Starbucks ในสหรัฐฯ

การเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานเกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูธุรกิจในตลาดอเมริกาเหนือ หลังยอดขายเทียบสาขาเดิมติดลบต่อเนื่องถึง 6 ไตรมาสติดต่อกัน ก่อนจะทรงตัวได้ที่ร้อยละ 0 ในปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายทั่วโลกยังขยายตัวร้อยละ 1 โดยมีนายไบรอัน นิโคล ซีอีโอคนปัจจุบันเป็นผู้นำการปรับโครงสร้างร้านและการบริการ เพื่อดึงลูกค้ากลับสู่ร้านอีกครั้ง

ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Starbucks ได้ปิดร้านกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงสาขาธงในซีแอตเทิลซึ่งเป็นร้านแรกที่เข้าสู่ระบบสหภาพแรงงาน พร้อมปรับลดพนักงานสายงานองค์กร เพื่อควบคุมต้นทุนและเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของบริษัท

ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน สหภาพแรงงานเคยลงมติไม่รับข้อเสนอของบริษัทที่เสนอปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีขั้นต่ำร้อยละ 2 โดยให้เหตุผลว่าข้อเสนอไม่ครอบคลุมถึงสิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการ เช่น การประกันสุขภาพ หรือการปรับค่าแรงในทันที ขณะที่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานผู้ควบคุมบัญชีมหานครนิวยอร์กและกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้ร่วมกันส่งจดหมายถึงฝ่ายบริหาร Starbucks เพื่อเรียกร้องให้กลับมาเจรจากับสหภาพแรงงานโดยเร็ว

ฝั่งบริษัท Starbucks แถลงว่า สวัสดิการที่มอบให้แก่พนักงานซึ่งทำงานอย่างน้อย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ถือว่าดีที่สุดในอุตสาหกรรมค้าปลีก รวมถึงสิทธิ์ประกันสุขภาพ การลาคลอด และทุนเรียนออนไลน์จากมหาวิทยาลัยอริโซนา สเตต ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการให้บริการลูกค้าได้ตามปกติในช่วงเทศกาล ไม่ว่าการประท้วงจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม

สหภาพแรงงาน Starbucks Workers United ย้ำว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการกดดันให้บริษัทจัดทำสัญญาที่สะท้อนถึงความเป็นธรรมในการทำงาน การจัดสรรพนักงานในร้านที่เพียงพอ รวมถึงค่าจ้างและสวัสดิการที่เหมาะสมกับต้นทุนชีวิตที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงฤดูเทศกาลที่ภาระงานของบาริสตาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้ การประท้วงที่อาจเกิดขึ้นในช่วง "Red Cup Day" มีความหมายเชิงสัญลักษณ์สูง เพราะเป็นวันเปิดฤดูกาลเทศกาลขายที่ใหญ่ที่สุดของ Starbucks ซึ่งมักดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก การหยุดงานในช่วงนี้จึงอาจกระทบทั้งรายได้และภาพลักษณ์ของแบรนด์ในตลาดอเมริกา