ตั๋วร่วมรถไฟฟ้า 20 บ. ส่งผลบวก BEM-BTS
#BEM #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
ขั้นแรกของค่าโดยสาร 20บาท ตลอดสาย
ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้รับการเห็นชอบและคาดว่าจะเริ่มใช้มาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสาร 20 บาท ในเดือนก.ย.68
ส่งผลบวกต่อ BEM และ BTS เนื่องจากค่าโดยสารจะลดลงและเพิ่มจำนวนเที่ยวโดยสารโดยรวมขึ้นแต่ส่งผลลบเล็กน้อยต่อ VGI เพราะจะกระทบผู้ใช้บัตร Rabbit
คงมุมมองบวกต่อกลุ่มจากแนวโน้มการจราจรที่สดใส หุ้นเด่นของเรายังคงเป็น BEM ด้วยราคาเป้าหมายที่ 11.17 บาท
Investment Topics
เหตุการณ์ใหม่ เว็ปไซด์ Dailynews online รายงานว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตัวร่วมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารเดียวตลอดสายและยกเลิกค่าธรรมเนียมการเข้าใช้ซ้ำ กำหนดการต่อไปคือการกำหนดนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายตั้งแต่เดือนก.ย.2568 ถึง ก.ย.2570 (สิ้นสุดวาระของรัฐบาลชุดปัจจุบัน) โดยต้องใช้งบประมาณรวมที่ 1.6 หมื่นลบ. หรือ 8 พันลบ./ปี
กรอบระยะเวลารัฐสภาจะเป็นผู้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมเป็นลำดับต่อไปและคาดจะนำเสนอต่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้ภายในสิ้นเดือนธ.ค.2567 นายสุริยะคาดว่าร่างพระราชบัญญัติจะได้รับการเห็นชอบทั้ง 3 ครั้งในรัฐสภาภายในเดือนมิ.ย.2568และคาดจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนก.ย.2568ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดทุกสายของรถไฟฟ้า
สมมติฐานของเราอิงจากสมมติฐานของเรา เราใช้คาดการณ์จำนวนเที่ยวโดยสารของ BEMและ BTS และค่าโดยสารของเราเพื่อประเมินงบประมาณสำหรับการรองรับนโยบาย 20 บาทตลอดสาย และเราคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณที่ 1.1 หมื่นลบ. แบ่งเป็น 1.2 พันลบ. ในปี 2568, 5.4 พันลบ. ในปี 2569 และ 4.2 พันลบ. ในปี 2570 ซึ่งสอดคล้องกับงบประมาณที่นายสุริยะตั้งไว้ อย่างไรก็ดี การประเมินดังกล่าวยังไม่รวมจำนวนเที่ยวโดยสารที่คาดเพิ่มขึ้นจากค่าโดยสารที่ลดลง นอกจากนี้ เรายังไม่ได้คาดการณ์จำนวนเที่ยวโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีม่วงของ MRT และสายสีแดงของ SRT แต่ใช้คาดการณ์เงินช่วยเหลือของรัฐบาลแทนโดยคาดอัตราเติบโตจะอยู่ที่ปีละ 3%
มุมมองของเราเรามีมุมมองบวกต่อความคืบหน้าของนโยบายค่าโดยสารราคาเดียวซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือค่าโดยสารส่วนเกินจาก 20 บาท เพราะคาดว่าจำนวนเที่ยวโดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากผู้ใช้แพล็ตฟอร์มขนส่งอื่น ๆ ที่มีค่าโดยสารที่อยู่ในระดับเดียวกันอาจเปลี่ยนมาใช้ขนส่งระบบรางที่มีความสะดวกสบายและมีค่าโดยสารที่ถูกกว่า
อย่างไรก็ดี เราคาดว่ารัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการเอกชนจะไม่ได้รับผลประโยชน์เกินควรโดยกำหนดให้เข้าร่วมกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมหรือผ่านมาตรการอื่นๆ เราเชื่อว่านโยบายค่าโดยสารอัตราเดียวจะทำให้จำนวนเที่ยวโดยสารของทั้ง BEM และ BTS เพิ่มขึ้นหากมีการบังคับใช้ เราคาดว่า BTS จะได้ประโยชน์มากกว่า BEM จากส่วนลดค่าโดยสารที่มากกว่าซึ่งคาดจะส่งผลให้จำนวนเที่ยวโดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี เรามีมุมมองลบเล็กน้อยต่อ VGI จากจำนวนผู้ใช้บัตร Rabbit ที่อาจลดลงซึ่งคาดจะส่งผลกระทบต่อยอดขายบัตร Rabbit และการเก็บข้อมูล
Valuation and Recommendation
มุมมองบวกเราคงมุมมองบวกต่อกลุ่มขนส่งภาคพื้นดินหนุนจาก 1) ความคืบหน้าของนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย 2) แนวโน้มขาขึ้นของการจราจรจากการเปิดสถานีใหม่และการพัฒนาตลอดเส้นทางและ 3) ความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
หุ้นเด่น BEM ยังเป็นหุ้นเด่นของเรา ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 11.17 บาท ปัจจัยหนุนตัวคุณมูลค่าหุ้นคาดจะมาจาก 1) กำไรรายปีที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ 2) การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้และส้มในปี 2570-73 และ 3) ปริมาณจราจรที่คาดจะมีปัจจัยหนุนจากการเปิดให้บริการวัน แบงค็อกและดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญได้แก่ 1) จำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยกว่าคาด 2) การแทรกแซงทางการเมืองในค่าโดยสารและ 3) การพัฒนาโครงการขนส่งใหม่ที่ล่าช้า