รถตู้โอดวิ่งไม่คุ้มทุนแถมเสี่ยงกับผู้โดยสารติดเชื้อโควิด
สำหรับความเคลื่อนไหวกรณีผ่อนปรนให้รถยนต์ตู้โดยสารรับจ้าง วิ่งรับส่งผู้โดยสารข้ามจังหวัดตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา จากการตระเวนตรวจสอบที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พบว่า ล่าสุดเริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการมากขึ้นกว่า 4 วันที่ผ่านมา แต่ยังถือว่ามีปริมาณไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ซึ่งรถยนต์ตู้โดยสารที่มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการมากที่สุด คือ สายสุไหงโก-ลก จรดปลายทาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รองลงมาคือ สายสุไหงโก-ลก จรดปลายทาง อ.เมืองนราธิวาส ส่วนสายสุไหงโก-ลก จรดปลายทาง จ.ยะลาและปัตตานี ค่อยข้างบางตา
และจากการสอบถามเจ้าของรถยนต์โดยสารโดยภาพรวม จากเดิมที่สามารถรับผู้โดยสารได้ จำนวน 13 คน แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างรับผู้โดยสารได้เพียง 9 คนเท่านั้น แถมยังเก็บค่าโดยสารตามปกติ ส่งผลทำให้แต่ละเที่ยวที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารจะมีราคาลดน้อยลง แต่ถือว่ายังโชคดีที่บางครั้งอาจจะมีรายได้เพิ่มเป็นค่าชดเชยแทนผู้โดยสารที่หายไปจากการเว้นระยะห่าง คือ จะมีประชาชนนำสินค้าหรือสิ่งของรวมทั้งพัสดุต่างๆมาฝากส่งตามจุดหมายปลายทางที่วิ่งรับส่งผู้โดยสาร
นอกจากนี้จากการสังเกตการณ์ที่ช่องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า ของรถโดยสารปรับอากาศประจำทาง หรือ รถทัวร์ ซึ่งจะมีการผ่อนปรนวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ ในวันที่ 10 มิ.ย. 63 ที่จะถึงนี้ พบว่า มีประชาชนทยอยเดินทางมาจองตั๋วล่วงหน้ากันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถโดยสารปรับอากาศประจำทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.สุไหงโก-ลก จรดปลายทางกรุงเทพมหานคร จนที่นั่งเต็มแล้วในการเดินทางวันที่ 10 และ 11 มิ.ย. 63 ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้โดยสารที่ตกค้างที่ไม่สามารถที่จะเดินทางกลับไปประกอบอาชีพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ด้านนายยะยา หะยีเจ๊ะและ เจ้าของรถยนต์ตู้โดยสารประจำทางสายสุไหงโก-ลก จรดปลายทาง อ.หาดใหญ่ ซึ่งขับรถเอง กล่าวว่า รถยนต์ตู้โดยสารเริ่มวิ่งตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา จากเดิมที่สามารถรับส่งผู้โดยสารได้ 13 คน ขณะนี้รับได้เพียง 9 คน แต่ยังคิดราคาค่าโดยสารตามปกติคือ คนละ 200 บาท ถ้าถามว่าคุ้มค่าน้ำมันมั๊ยมันก็ไม่คุ้ม แต่วิ่งประคองๆ ไว้ก่อน ส่วนผู้โดยสารในระยะนี้ก็พอจะมีบ้างซึ่งผิดกับในช่วงวันแรกๆ ที่สามารถออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้เพียง 1 คันต่อวันเท่านั้น ส่วนกรณีผู้โดยสารที่เดินทางมาใช้บริการนั้น เมื่อถามว่ากลัวจะติดเชื้อโควิด 19 หรือไม่นั้น ตอบได้เลยว่ามันน่ากลัวเพราะว่าไม่รู้เขาเดินทางมาจากที่ไหนอำเภอไหน และเขาติดเชื้อไวรัสโควิด 19 มาหรือป่าว แม้จะมาซื้อตั๋วและผ่านการตรวจสอบสแกนอุณหภูมิร่างกายแต่ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์