รีเซต

ทรัมป์ยืนยันต้องฟ้อง BBC ยื่นคำขาดต้องลบสารคดี ภายใน 14 พ.ย.

ทรัมป์ยืนยันต้องฟ้อง BBC ยื่นคำขาดต้องลบสารคดี ภายใน 14 พ.ย.
TNN ช่อง16
13 พฤศจิกายน 2568 ( 11:59 )
7

ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทางสถานีโทรทัศน์ Fox News ยืนยันว่าจำเป็นต้องยื่นฟ้องและดำเนินการทางกฎหมายต่อ บีบีซี เนื่องจากสุนทรพจน์ที่เขากล่าวในปี 2021 ในวันที่ผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าอาคารรัฐสภา ถูกตัดต่อและออกอากาศผ่านรายการสารคดีของบีบีซี ทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดว่าตัวเขาสนับสนุนให้มีการใช้กำลังก่อความรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทนายความของทรัมป์ระบุในเอกสารคำฟ้องว่า บีบีซีต้องถอนสารคดีดังกล่าวภายในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 32,330 ล้านบาท พร้อมกับเรียกร้องให้บีบีซีออกแถลงการณ์ขอโทษและจ่ายค่าชดเชยให้แก่ทรัมป์สำหรับสิ่งที่ระบุว่าเป็นความเสียหายต่อชื่อเสียงและการเงินอย่างใหญ่หลวง

สารคดี “พาโนรามา” (Panorama) ซึ่งเป็นรายการหลักรายการหนึ่งของบีบีซี ได้นำคลิปวิดีโอ 3 ส่วนจากสุนทรพจน์ของทรัมป์มาต่อกัน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ว่าทรัมป์กำลังยุยงให้เกิดการจลาจลในวันที่ 6 มกราคม 2021 ซึ่งทนายความของทรัมป์ระบุว่าสิ่งนี้เป็นเท็จและเป็นการหมิ่นประมาท และระบุด้วยว่า บีบีซีได้ละเว้นบางส่วนของสุนทรพจน์ที่ทรัมป์กล่าวว่า คาดหวังให้ผู้สนับสนุนเดินขบวน "อย่างสันติและรักชาติ" ซึ่งผู้สนับสนุนเหล่านี้ได้รวมตัวกันเพื่อขัดขวางมิให้สมาชิกรัฐสภารับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต

การเปิดเผยเรื่องการตัดต่อสุนทรพจน์และการวิพากษ์วิจารณ์บีบีซี นิวส์ ในวงกว้าง ได้นำไปสู่วิกฤตการณ์ของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ โดยส่งผลให้ผู้อำนวยการใหญ่ ทิม เดวี และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายข่าว เดบอราห์ เทอร์เนส ลาออกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วน ซาเมียร์ ชาห์ ประธานบีบีซียังได้กล่าวขอโทษสำหรับการตัดต่อคลิปดังกล่าว แต่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างเรื่องการมีอคติอย่างเป็นระบบในการรายงานข่าวของบีบีซี 

แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ทรัมป์ยังคงกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเรียกว่า “การตัดต่ออย่างจงใจและไม่ซื่อสัตย์” ในสารคดีดังกล่าวของบีบีซี และเรียก บีบีซี ว่าเป็น “เครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อฝ่ายซ้าย” ที่ได้รับเงินทุนจากผู้เสียภาษีชาวอังกฤษ

ด้านเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า สนับสนุนให้ บีบีซีเป็นอิสระและเข้มแข็ง แต่ต้องจัดระเบียบองค์กรตัวเองด้วย

หากการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง และบีบีซี ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับทรัมป์ จะเหมือนเป็นการใช้เงินจากผู้ชมชาวอังกฤษไปจ่ายชดเชยให้กับทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ของบีบีซีย่ำแย่ลงอีก

ปราทีก สวาอิกา ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านข้อพิพาทสื่อและการบริหารชื่อเสียงของ “บอยส์ ชิลเลอร์ เฟล็กซ์เนอร์” (Boies Schiller Flexner) สำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงเปิดเผยว่า ทรัมป์อาจเผชิญอุปสรรคในการยื่อฟ้องครั้งนี้

สวาอิกา กล่าวว่า แม้ทรัมป์จะยืนกรานว่าบีบีซีบิดเบือนคำพูดในสารคดี แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์ได้รับผลกระทบทางการเงินและชื่อเสียงหรือไม่ เพราะจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า บีบีซี รู้ว่าการตัดต่อนั้นเป็นเท็จ หรือต้องแสดงให้เห็นว่า บีบีซี ประมาทเลินเล่อต่อความจริง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ที่ยากมากสำหรับบุคคลสาธารณะ

นอกจากนี้ การที่สารคดีดังกล่าว ออกอากาศก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 จะทำให้คดีมีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะทรัมป์ชนะการเลือกตั้งครั้งนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ความเสียหาย 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง